ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
บวกต่อ คลายกังวลประเด็นสหรัฐฯ – เกาหลีเหนือ
KGI คาด SET วันจันทร์ขึ้นต่อ หลังเมื่อวันศุกร์ที่แล้วดัชนีฯ ชนเป้าไตรมาส 3 ของเราที่ 1,645 + ตลาดเผชิญแรงขายลดความเสี่ยงประเด็นเกาหลีเหนือช่วงเสาร์-อาทิตย์ (แต่ท้ายที่สุดเกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบขีปนาวุธในช่วงวันหยุดแต่อย่างใด) คาดว่าแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงจะกลับมาในวันนี้ สะท้อนจาก i) ฟิวเจอร์ของดาวโจนส์ขึ้นเกือบ 100 จุด ณ เวลา 8.20 น. และ ii) ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยชะลอตัวแล้ว ไม่ว่าราคาทองคำ หรือค่าเงินเยน สะท้อนภาวะ “reversal to risk-on mode” ผนวกกับการเข้าซื้อหนักของนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศเมื่อวันศุกร์ ยังหนุนทิศทางหลักของตลาดหุ้น อย่างไรก็ดีในสัปดาห์นี้ SET น่าจะยังผันผวนสูงอยู่ เนื่องจากการแรลลี่ของดัชนีฯ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เหลืออัพไซด์ไม่มากจากเป้าหมายของเรา รวมทั้งจากเป้า consensus ซึ่งอยู่แถว 1,650 จุดเช่นกัน สำหรับปัจจัยแม็คโครสัปดาห์นี้ ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ในวันที่ 14 ก.ย. หากยังอยู่ในระดับต่ำ จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน ล่าสุดสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ยังให้น้ำหนักเพียง 36% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. 2560
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร BEM*, PTTGC*
BEM* (เป้าพื้นฐาน 8.68 บาท) 1) รายงานตัวเลขผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินและยอดผู้ใช้ทางด่วนเดือน ส.ค. เติบโต 9.6% YoY และ 3.0% YoY ตามลำดับ ขณะที่รายได้รถไฟฟ้าใต้ดิน และทางด่วนเพิ่มขึ้น 8.6% YoY และ 8.2% YoY ตามลำดับ เป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q60 ... เป็นผลจากการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง+สีน้ำเงิน และจำนวนผู้ใช้ทางด่วนศรีรัชฯที่เพิ่มขึ้น 9% MoM 2) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 7.75 บาท แนวต้าน 7.95 - 8.10 บาท (Stop loss 7.7 บาท)
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 78 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเทศจีน ออกบทวิเคราะห์กลุ่มปิโตรเคมี เผยการเข้าตรวจสอบประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมโรงงานปิโตรเคมีที่จีนโดยภาครัฐฯ ส่งผลให้อุปทานปิโตรเคมีลดลงตั้งแต่ ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีต้นน้ำ อาทิ Benzene, PP, MEG, PVC, และ Carbon black คาดส่งผลให้ Spread ปิโตรเคมีกลุ่มดังกล่าวปรับขึ้นแรงต่อเนื่องใน 2H60 2) PTTGC* มีกำลังการผลิต Benzene, PP, และ MEG ดังนี้ Benzene 4.23 แสนตัน/ปี, PP 7.7 แสนตัน/ปี (ถือหุ้น 41%), และ MEG 4.23 แสนตัน/ปี 3) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น แนวต้าน 78.75 บาท และถัดไปที่ 81 บาท แนวรับ 76 บาท (Stop loss 74.75 บาท) ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไรหุ้นตัวอื่นในกลุ่มฯ อาทิ VNT (ผลิต PVC), IRPC* (ผลิต PP และ Benzene), IVL* (ผลิต MEG)
หุ้นมีข่าว
(+) รัฐบาลตั้งเป้ารายได้การท่องเที่ยวที่ระดับ 3 ล้านล้านบาทในปีหน้า (บางกอกโพสต์) เราเชื่อว่า ทิศทางดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากยังเห็นภาพการเติบโตที่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ภาครัฐคาดการณ์ว่า รายได้การท่องเที่ยวของไทยจะเพิ่มขึ้น 8% YoY มาที่ระดับ 2.5 ล้านล้านบาทในปี 2560 โดยการผลักดันจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านนโยบายทางด้านภาษี และเน้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างชัดเจน (เช่น กีฬา, การแต่งงาน, การรักษาพยาบาล เป็นต้น) เรายังแนะนำซื้อ AOT* โดยมีราคาเป้าหมาย 62.70 บาท
(+ กลุ่มนิคมฯ) ญี่ปุ่นถกนายกฯลงทุนอีอีซี ใช้ไทยฐานผลิตอุตฯแห่งอนาคต-'รมต.เมติ'นำทัพธุรกิจพบวันนี้ (กรุงเทพธุรกิจ) ตั้ง'ประเสริฐ บุญสัมพันธ์' หัวหน้าทีม เดินสายโรดโชว์ต่างประเทศดึงลงทุนอีอีซี รัฐมนตรีเมตินำทัพธุรกิจญี่ปุ่นร่วม 600 บริษัทพบ "ประยุทธ์" วันนี้ ไขข้อข้องใจสอบถาม 3 ประเด็นใหญ่ เกี่ยวกับการลงทุนของญี่ปุ่นในพื้นที่อีอีซี ท่ามกลางการรุกหนักของจีนในไทย หวังใช้เป็นฐานข้อมูลตัดสินใจ ขณะที่ไทยยันให้ความร่วมมือทุกประเทศพร้อมเปิดกว้างรับการลงทุน ด้าน "อุตตม" เผย 5-6 บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นปักหลักใช้ไทยฐานผลิตอุตสาหกรรรมแห่งอนาคต มั่นใจปีหน้า เห็นเม็ดเงินลงทุนอีอีซีขั้นต่ำแสนล้าน
(+) MOONG ส่งซิกงบครึ่งปีหลังโต เพิ่มช่องทางขาย-ออกสินค้าใหม่ (ข่าวหุ้น) MOONG ลั่นผลงานครึ่งหลังโต รับผลบวกไฮซีซั่น พร้อมเดินหน้าขยายช่องทางการจำหน่าย-คลอดสินค้าใหม่ ฟากรายได้ทั้งปีปรับลดเหลือโต 15-20% เหตุขยายอีคอมเมิร์ซ ล่าช้ากว่ากำหนด
(+) PDI รุกเทรดดิ้งโลหะสังกะสีหวังดันยอดขายให้ผลงานโตต่อเนื่อง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ผาแดงอินดัสทรี เดินหน้าธุรกิจการค้าหรือเทรดดิ้งโลหะสังกะสีเต็มกำลัง เน้นการบริการลูกค้าอย่างครบวงจร ภายใต้ชื่อ "พีดีไอ เมทัลส์" พร้อมส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพ หมดปัญหาสต๊อกสินค้าโดยไม่จำเป็นและเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น หวังดันผลงานโตต่อเนื่องหลังครึ่งปีแรกอวดรายได้ เฉียด 2.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลดีจากราคาสังกะสีโลกพุ่ง
(+) ชี้อสังหาฯรอบกรุงปีนี้ ผุดใหม่ทะลุ 1 แสนยูนิต (ไทยโพสต์) ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ชี้เศรษฐกิจดีขึ้น หนุนผู้ประกอบการเชื่อมั่นเปิดโครงการใหม่คาดทำเลกรุงเทพฯปริมณฑลทั้งปีทะลุ 108,709 ยูนิต โต 2.9%
(+) 'โมโน29' โตสวนทีวีดิจิตอล ชูแม่เหล็ก'คอนเทนต์'ดูดลูกค้าแห่ซื้อโฆษณา (ฐานเศรษฐกิจ) โมโน 29 แจงผลประกอบการ 8 เดือนโตตามเป้า คาดสิ้นปีได้ 1,700 ล้านโต 40% สวนกระแสธุรกิจทีวีดิจิตอลชี้ 2 เดือนโค้งท้ายปีลูกค้าแห่ซื้อโฆษณาเต็ม 100% ล่าสุดคว้าลิขสิทธิ์ค่ายหนังฟอกซ์ เสริมคอนเทนต์ กระตุ้นการเติบโตปี 61
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ZIGA (เป้า Consensus 7.7 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 7.0 บาท แนวต้าน 7.75 บาท (Trailing stop 6.8 บาท)
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนะนำ “Let profit run” หากวันนี้ยืนเหนือแนวราคา 3.78 บาท ได้ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 4.1 บาท (Trailing stop 3.4 บาท)
PLE (เป้าพื้นฐาน 2.3 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 1.70 บาท แนวต้าน 1.80 – 1.90 บาท (Stop loss 1.61 บาท)
MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) พิจารณาแนวต้าน 7.20 บาท หากวันนี้ผ่านได้ ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.5 – 7.7 บาท แนวรับ 6.9 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) ประเมินแนวรับ 13.2 บาท และ 13.0 บาท แนวต้าน 14.0 บาท และ 14.8 บาท (Trailing Stop 13 บาท)
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 5.8 บาท) ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 5.6 บาท โดยมีแนวรับ 5.2 บาท (Stop loss 5.05 บาท)
ECF (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 5.5 บาท (Trailing stop ขยับขึ้นเป็น 5.0 บาท) ... แจก Warrant ECF-W2 และ ECF-W3 ขึ้น XW วันที่ 6 ต.ค. คาดเป็น catalyst บวกต่อแนวโน้มราคาในระยะสั้น และประเมิน ECF เตรียมประกาศการลงทุน สอดคล้องกับการแจก Warrant
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BCP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 43 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับราคาเป้าหมาย 1H61 ซึ่งคำนวณโดยวิธี SoTP ขึ้นเป็น 43 บาท จากเดิม 41 บาท เพื่อสะท้อนถึงมูลค่าหุ้นที่ถือเพิ่มอีก 8% ในโครงการ Cauchari-Olaroz Project I ซึ่งมีกำลังการผลิต lithium 25KTA ในโมเดลของเรา นอกจากนี้ ยังคาดว่ากำไรสุทธิของ BCP ใน 3Q60 จะสูงสุดในปีนี้ เนื่องจาก i) base GRM ที่แข็งแกร่งขึ้นมาก และ ii) ไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันเหมือนเมื่อใน 2Q60
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1632 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1632 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1632-1622 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1632 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1632-1647 จุด
แนวรับวันนี้: 1632/1623 แนวต้านวันนี้: 1639/1647
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ข่าวเด่น