คำแนะนำ
หากราคาสามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะขายออกไปก่อน ทั้งนี้ ควรพิจารณาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,316 1,307 1,300
แนวต้าน 1,337 1,347 1,358
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 19.39 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเกิดแรงขายกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอันเนื่องมาจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือหลังเกาหลีไม่ได้ทำการทดสอบขีปนาวุธในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาได้อ่อนกำลังลงโดยมีความรุนแรงอยู่ที่ระดับ 1 ขณะที่เคลื่อนตัวในรัฐฟลอริดาและไม่ได้สร้างความเสียหายมากเท่ากับที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง อีกทั้งยังหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 259.58 จุดหรือ 1.19% สู่ระดับ 22,057.37 ส่วนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 1% สู่ระดับปิดสูงเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ซึ่งเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่กดดันให้ราคาทองคำร่วงลง 1.4% ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้ 1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กเดือนส.ค.จาก NFIB และตัวเลขการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ JOLTS เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางสกุลเงินดอลลาร์และราคาทองคำ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,316-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีแรงดีดกลับสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอ หรือ ไม่มีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น แต่หากมีแรงซื้อมากพอจนราคาผ่านแนวต้าน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาหลุด 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การเปิดสถานะซื้อใหม่อาจต้องชะลอออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม อยากให้พิจารณาแรงซื้อแรงขายในช่วงนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่หากราคาดีดกลับจนสามารถยืนเหนือ 1,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การถือสถานะขายยังต้องระมัดระวังเช่นกัน
ข่าวเด่น