Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ยังคงผันผวนโดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงขายทำกำไรในกลุ่ม ICT และ พลังงาน นำโดยกลุ่ม PTT อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงซื้อเก็งกำไรใน AOT และกลุ่มธนาคาร ( KBANK, BBL) และกลุ่มค้าปลีก (BJC, ROBINS, HMPRO) ส่งผลให้ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,637 จุด (+1.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 5.3 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนที่ 7.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติ ขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 377 ลบ. / ในขณะที่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future เล็กน้อยที่ 673 สัญญา
Investment theme
คาด SET แกว่งตัวเพื่อทดสอบ 1,650 จุด : ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่า 4.4% ในขณะที่ภูมิภาคปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง 0.5% โดยคาดกลุ่มหลักอย่าง พลังงาน และ ICT จะเริ่มปรับฐาน และอาจมีการ Switch เข้าเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร ซึ่ง Laggard กลุ่มใหญ่อื่นๆ ในขณะที่ฝรั่งเปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Future สูงกว่า 1.0 แสนสัญญาใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่ง Sentiment ทางอ้อมกดดันตลาดบริเวณ 1,650 จุด ในขณะที่เราแนะนำให้นักลงทุนจับตานโยบายของ Trump และการประชุม FOMC ที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดโลก ภายหลังสหรัฐเผชิญกับพายุ Harvey และ ล่าสุด Irma ส่งผลกระทบภาคอุตสาหกรรมพลังงานและการท่องเที่ยวอย่างมาก (เบื้องต้นประเมินความเสียหาย 2.0 +แสนล้านเหรียญสหรัฐ) ทำให้เรามองว่าสมาชิกสภาพรรค Republican และ Democrat อาจกลับมาช่วยผลักดันมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ Dollar กลับมาแข็งค่าอีกครั้งภายหลังปรับลงกว่า 11% YTD
Investment theme: สัปดาห์นี้เราคาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,625-1,645
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ปลัดคลังเห็นชอบหลักสามารถนำค่าใช้จ่ายทำประกันสุขภาพมาหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.0 แสนบาทต่อปี โดยลำดับถัดไปจะเสนอเข้าครม. / ธปท.ระบุหากปรับลดดอกเบี้ยอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน / Dollar กลับมาแข็งค่าเล็กน้อยที่ 91.9 / BDI ปรับขึ้นอีก 23 จุด ที่ 1,355
วันนี้ BANPU(0.30), BCP(1.05), BDMS(0.13), KBANK (0.50), TPIPP(0.10), ขึ้นเครื่องหมาย XD
บทวิเคราะห์วันนี้ : GFPT (ปรับประมาณการขึ้น)
Stock pick : SPA
SPA สะสมซื้อ @15.00 บาท
ราคาหุ้น laggard จากกลุ่มท่องเที่ยวมาก โดย YTD -0.8% เทียบกับ AOT +42% ERW +29% ขณะที่กำไรสุทธิ ขยายตัวดีมาก +29% YoY เทียบกับ AOT +11% YoY และ ERW +27% YoY
การเข้ามาถือหุ้นเหนือกว่า 5% ของ บลจ. ขนาดใหญ่ สะท้อน ภาพระยะยาวแข็งแกร่ง จากการขยายสาขาปีละ 10 แห่ง ความสามารถปรับราคาขึ้น การได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวจีน (สัดส่วน 50% ของลูกค้า) รวมถึง การได้รับความเชื่อถือในด้าน การบริหาร และ CG
ผลการดำเนินงาน สะท้อน Outlook บวกชัดเจน กำไรสุทธิ 1H60 +30% YoY และสามารถทำ SSSG +9% YoY สวนทางเศรษฐกิจ
Trading idea – เก็งกำไร BANPU คาดงบไตรมาส3 เติบโตเด่น YoY, QoQ, เก็งกำไร GFPT (ปรับประมาณการกำไรขึ้น 4% จาก Margin% ที่สูงขึ้น) และปรับราคาเป้าหมายเป็น 22.00 บาท / ซื้อ SPALI เอา Warrant
Technical View
อ่อนตัวลงในกรอบขาขึ้น : ดัชนีปรับตัวลงหลุดแนวรับกรอบ Uptrend ย่อย แต่ขณะนี้ Shooting Star ยังคงไม่ถูกคอนเฟิร์ม เนื่องจากกราฟรายวันยังไม่หลุด Low ของวันที่ 8 ก.ย. ที่ 1634 ส่วนภาพรายชั่วโมงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงต่อเนื่องหลังหลุดกรอบบน มองว่าจะแกว่งตัวลงต่อทดสอบแนวรับที่ 1625 ซึ่งภายในวันนี้มองกรอบการแกว่ง 1625-1645 โดยระยะกลางหากไม่หลุด 1625 มองว่าดัชนีจะยังคงรักษาแนวโน้มการแกว่งตัวขึ้นในกรอบหลัก กลยุทธ์การลงุทน (1) นักลงทุนที่มีหุ้น หากดัชนีหลุด 1634 แนะนำ ทยอย Lock Profit (2) นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1625 อาจใช้เป็นจังหวะเล่น Rebound ในระยะสั้น
แนวรับ : 1625, 1634 แนวต้าน : 1640, 1645
Eyes On
ปัจจัยต่างประเทศ : 12 ก.ย. จับตา APPLE เปิดตัว Iphone8 / จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / 13 ก.ย. สหรัฐรายงานตัวเลข PPI และตัวลขเงินเฟ้อในวันที่ 14 ก.ย.
ปัจจัยในประเทศ : จับตาบอร์ด EEC พิจารณา 101โครงการ ก่อนส่งเข้าครม.ในช่วงปลายเดือน / เพิ่ม EA, WORK เข้าดัชนี FSTE มีผล 15 ก.ย.
หุ้นเทคนิค:
TOP (B 90.50-91.00, Tp 94.50//97.00, Cut 89.00)
AOT (B 56.00, Tp 58.00, Cut 55.00)
ข่าวเด่น