|
|
|
|
|
|
ครม.ไฟเขียวภาษีบาป สุรา -ยาสูบ เตรียมประกาศในราชกิจจา 15 ก.ย.ก่อนมีผลบังคับใช้ 16 ก.ย. นี้ ยันไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภค สั่งผู้ประกอบการห้ามกักตุนสินค้า
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยกำหนดอัตราภาษีสินค้าประเภทสุรา ยาสูบ และไพ่ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต 2560 ฉบับใหม่ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.60 โดยคาดว่าจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาก่อนวันที่มีผลบังคับใช้ หรือในวันที่ 15 ก.ย.60 หลังจากนั้นกรมสรรพสามิตจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราภาษีและพระราชบัญญัติทั้งหมดให้รับทราบอีกครั้ง
ส่วนอัตราภาษีประเภทอื่นที่ ครม.เห็นชอบไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีก 1-2 วันนี้ โดยยืนยันการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ส่วนสถานการณ์การกักตุนสินค้า ได้มีการประสานงานให้ผู้ประกอบการแล้ว ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นการขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้นเท่านั้น
สำหรับการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มกระทบกับสิ่งแวดล้อม และกลุ่มสินค้าบาป โดยได้เน้นสิ่งที่ทำลายสุขภาพ และมีภาษีใหม่ เช่น การเก็บภาษีจากค่าความหวาน รวมทั้งได้ยกเลิกการเว้นเก็บภาษีบางรายการในเครื่องดื่มที่อยู่ในตู้แช่ 111 รายการ เช่น ชา กาแฟ ทำให้สินค้าประเภทนี้หากเครื่องดื่มมีส่วนผสมของชา กาแฟ เพียง 1% จะถูกจัดเก็บทั้งหมด
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กฎหมายสรรพสามิตฉบับใหม่จะเป็นการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต เปลี่ยนฐานคำนวณภาษีจากราคาหน้าโรงงานอุตสาหกรรม และราคานำเข้าซีไอเอฟ มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ซึ่งจะมีการปรับลดอัตราภาษีแต่ละสินค้าให้เกิดความสมดุล ไม่สร้างภาระผู้ประกอบการและผู้บริโภค
ทั้งนี้ กฎหมายฉบับใหม่ไม่ได้สร้างภาระให้กับผู้ประกอบการ แต่เพื่อต้องการสร้างความโปร่งใส เป็นธรรม และมีความเหมาะสม ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่มที่ไม่เคยถูกเก็บภาษีมาก่อน เช่น ภาษีน้ำหวานที่ให้แคลอรี่ โดยจะให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัว 2 ปี ยกเว้นส่วนผสมน้ำตาลเทียมที่ให้พลังงานแคลอรี่ จะได้รับการยกเว้น
ขณะที่อัตราการจัดเก็บภาษีค่าความหวาน จะแบ่งเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ค่าความหวาน 0-6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ไม่เสียภาษี ส่วนค่าความหวาน 6-8 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 10 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 8-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 30 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 10-14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 50 สตางค์ต่อลิตร ค่าความหวาน 14-18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร ค่าความหวาน 18 กรัมขึ้นไป ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร และหลังจากนั้นจะทยอยปรับทุก 2 ปีแบบขั้นบันได
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
12 ก.ย. 2560 เวลา : 16:44:14
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น