คำแนะนำ
เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,322-1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,316 1,307 1,300
แนวต้าน 1,337 1,347 1,358
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้แรงหนุนจากความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในเกาหลีเหนือที่กลับมาอีกครั้งหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดที่ยูเอ็นนำมาใช้กับเกาหลีเหนือ ถือเป็นเพียงขั้นตอนที่เล็กมาก และไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อใช้จัดการกับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวขึ้นในเกณฑ์จำกัดโดยถูกสกัดช่วงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นและปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ยังคงสามารถทรงตัวอยู่สูงกว่าจุดต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่งที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้ 2.96 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ของสหรัฐในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย คาดว่าดัชนี PPI ทั่วไปอาจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ค.
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำอ่อนตัวลงจนสามารถสร้างระดับต่ำสุดใหม่จากหลายวันก่อนหน้า หากการดีดตัวขึ้นค่อนข้างจำกัดแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นยังคงไม่แข็งแกร่งทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,322-1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นการซื้อ-ขายระยะสั้นจากการแกวง่ตัว โดยเข้าซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,322-1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเตรียมพร้อมลดการถือทองคำลงหากราคาหลุด 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจทยอยแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น