เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,630-1,650

          Sentiment ตลาดหุ้นโลกหนุน SET +0.37% ปิด 1,643.55 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 191 ล้านบาท

เรามองอย่างไร: 
          SET กำลังพยายามปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,650 +/- จุด อีกครั้งวันนี้ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) Sentiment ตลาดหุ้นโลก โดยตลาดหุ้น Dow Jones +0.28% และราคาน้ำมัน Brent +0.8% หนุนกลุ่มพลังงาน 2) นักวิเคราะห์ (Consensus) ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นต่อเนื่อง (ดู Revision Ratio ในรายงาน Pathumwan Corner วันที่ 12 ก.ย.) 3) valuation SET ที่ PE18 14.4x ไม่แพง และกำไร SET ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

ทำอะไรดี: 
          รายงาน Siam Senses วันนี้ปรับเป้าหมาย SET สิ้นปี 2018 ขึ้นเป็น 1,830 จุด และเพิ่มสัดส่วนหุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทน Outperform ตลาดเข้าพอร์ต ได้แก่ AOT CPALL KBANK และ PTT 
          1."ซื้อ" PTT : เป็นหุ้นใหญ่ที่ราคา laggard PE18 9.7x ปันผลมากกว่า 5% 
          2."ซื้อ" AOT : นักท่องเที่ยวขยายตัวดีกว่าคาด และรายได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่ม 
          3."ซื้อ" CPALL : SSSG เริ่มฟื้นตัวใน 3Q17 และจะเร่งตัวต่อเนื่องใน 4Q17 
          4."ซื้อ" KBANK : ผลดีเศรษฐกิจเร่งตัว มอง NPL จะ peak กลางปี 2018 (ดูรายละเอียดเพิ่มในรายงาน Siam Senses วันนี้)

Tactical Portfolio (1-3 months): (หน้า 2)
          "ถือ" AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC และ WHA ต่อไป (ไม่เปลียนแปลง)

Fundamental:(หน้า 5)
          Siam Senses : เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า จะเป็นปัจจัยบวกต่อการปรับสูงขึ้นของ SET ปีหน้า ด้วยเป้าหมายสิ้นปี 2018 ที่ 1,830 จุด (เดิม 1,800 จุด)...เพิ่มสัดส่วน Big Cap เข้าพอร์ต ได้แก่ AOT CPALL KBANK PTT ขณะที่นำ DELTA KKP MINT WORK ออกจากพอร์ต 
          TREIT : "ถือ" พื้นฐาน 10.2 บาท.TREIT จะออกหุ้นใหม่ 2,036 ล้านหุ้นเพื่อทำ share swap กับผู้ถือหุ้น TFUND, TLOGIS และ TGROWTH.ทั้งนี้เราแนะนำผู้ถือหุ้น TFUND TLOGIS TGROWTH แปลงไปเป็น TREIT เพื่อรับปันผล 7% (มีสัดส่วนสินทรัพย์ Freehold ประมาณ 70%)
          Pathumwan Corner : แนะนำ "ซื้อ" กองทุนที่ลดลงหุ้นขนาดใหญ่กลุ่ม SET50 ที่เป็นกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้ม Outperform ตลาดระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า ชอบ T-SET50 และกองทุน T-PrimePlus AI  ที่จะ IPO ในวันที่ 15-25 ก.ย.นี้ ด้วยคุณสมบัตร 1) ลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ และ 2) มีความคุ้มครองด้านสุขภาพให้ด้วย (ผู้ซื้อต้องมีอายุ 15-65 ปี)...ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่าย Selling Agent 02-217-8852/02-217-8671

Technical Story: Technical SET range: 1,634-1,655 
คาดขึนทดสอบ 1,655-1,660 จุด: (รายงาน The Technical Story)
          SET กำลังตั้งหลักขึ้นฝ่าด่าน Cycle ไปที่เป้าหมาย 1,655-1,650 จุด หากทะลุ 1,647 จุดได้ มีลุ้นต่อขึ้นไปในเขต 1,655 และ/หรือ 1,661 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,639 จุด หากยืนไม่อยู่มีแนวรับถัดไปที่ 1,634 จุด

หุ้นแนะนำ: 
          ERW รับเพิ่มที่ 5.85 เป้าหมาย 6.55 บาท
          AMATA ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 21.50 / 22.00 บาท

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
          "ถือ" Long S50U17 เป้าหมาย 1,068 จุด...Trailing Stop 1,030 จุด 
          "Long"Block ADVANC เป้าหมาย 194.5 / 197 บาท..Leverage 20x 
TradeCode: Buy >KCE, ADVANC, JWD 
          (ดูรายงาน Trade Code)

Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
          Tactical Portfolio : Tactical Portfolio ให้ผลตอบแทน +2.1% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน +1.1% โดยกลุ่มหุ้นที่แนะนำ "เพิ่ม" เข้าพอร์ตเมื่อวันที่ 5 ก.ย.อย่าง WHA และ AMATA ให้ผลตอบแทนสูง 6.4% และ 6.3% ตามลำดับ ขณะที่ EA ให้ผลตอบแทน 4.3% w-w จากแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q17 เติบโตสูงจากกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมหาดกังหัน 126MW ผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 เฟส รวมไปถึงมีประเด็นจากการที่ FTSE เพิ่มหุ้นเข้าพอร์ตวันที่ 15 ก.ย.นี้ด้วย...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC และ WHA 
  WHA  ("ซื้อ" TP 4.0 บาท) ราคาหุ้นทำลายแนวต้าน 3.20 บาทไปในสัปดาห์ก่อน และมีแนวโน้ม Outperform ตลาด แนะนำ "ซื้อ" จาก 1) ราคาหุ้น +14% YTD ยัง laggard AMATA +76% 2) ยอดขายที่ดินเร่งตัวขึ้นใน 2H17 3) การขายสินทรัพย์ 3-4 พันล้านบาท เข้ากองทุน REIT ใน 4Q17 4) WHAUP มีกำไรเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 5) Debt to Equity ดีขึ้นเหลือ 1.1x สิ้นปีนี้ มีความพร้อมจ่ายปันผลเร่งขึ้น 6) ภาครัฐฯ จะพิจารณากฎหมาย EEC ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า

Siam Senses Portfolio  (6-12 เดือน)

หุ้นใน Siam Senses Portfolio

• AMATA  : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
• AOT    : ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า
• BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
• CPALL  : ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่แข็งแกร่ง เติบโตสูงจากการขยายสาขาและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากสินค้าใหม่ที่มี margin สูง
• DTAC   : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
• EA     : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
• KBANK  : ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเศรษฐกิจฟื้นตัว
• KCE    : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
• PTT    : ธุรกิจก๊าซหนุนกำไรโตแข็งแกร่ง
• STEC   : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018