Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น จากแรงเก็งกำไรในกลุ่มค้าปลีกต่อเนื่อง นำโดย (CPALL, ROBINS, BJC, GLOBAL และ HMPRO) ในขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กยังโดดเด่นหลายตัว เช่น ASIAN , GCAP และ SAPPE ส่งผลให้ ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,643 จุด (+6.0 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท ชะลอจากวันก่อน 5.3 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติซื้อหุ้นไทยที่ 191 ลบ. และ Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 1,522 สัญญา
Investment theme
Sideway Up / Enjoy the flows => Domestic Play : ตลาดปรับตัวขึ้นกว่า 70 จุดใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหลักๆ เป็นการซื้อของฝรั่งและ Prop trade รวมประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเรามองว่า เงินที่ฝรั่งซื้อส่วนหนึ่งมาจาก เงินที่ได้จากการขายในตลาดหุ้นเอเชียเหนืออย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน รวมกว่า 7.0 หมื่นล้านบาท ในรอบเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดหุ้น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ได้ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 15% และ 20% ตามลำดับก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามความเคลื่อนไหวของทางสหรัฐ ภายหลังพายุเฮอริเคน Harvey และ Irma ได้บรรเทาลง และเปิดโอกาสให้ ปธน.ทรัมป์ อาจสร้างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสียหายขึ้นมา ทำให้มองว่ามีโอกาสที่ค่าเงิน Dollar จะกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดเกิด Technical rebound ขึ้นมาบริเวณ 92.0 โดยเราแนะให้ติดตามมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของสหรัฐ เช่น นโยบายภาษี (ลดจาก 35% เหลือ 15%) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนทางอ้อม ในภูมิภาค
Investment theme : เราคาดว่ากระแสเงินกำลังกลับเข้า Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่เคยถูก Underweight มาก่อนหน้า เช่น อสังหาฯ ธนาคาร ค้าปลีก รวมถึง สื่อโฆษณา โดยหาก SET ปรับขึ้นทดสอบ 1,650 +/- แนะขายทยอยทำกำไรบ้างนหุ้นที่กำไรมากกว่า 20% และเริ่มกลับมาสะสมหุ้นที่ Laggard กลุ่มอย่าง SUPER, SPALI และ LPN
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา นายกไม่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / กสทช.ระบุ ผู้ประกอบการ TV digital ยังคงต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือ (อีก 5 งวด) / Brent ปรับตัวขึ้นต่อที่ 54.1 เหรียญ/บารร์เรล / อังกฤษ รายงาน Core PPI สูงกว่าคาดที่ 2.5% (คาด 2.3%) / Apple Inc. เปิดตัว iphone X
บทวิเคราะห์วันนี้ : SAT
Stock pick : GFPT
GFPT สะสมซื้อ @22.00 บาท
คาดกำไร 3Q60 สูงสุดของปี เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากการส่งออกไก่เติบโตเด่นจากทั้งปริมาณและราคาที่เพิ่มขึ้น
ราคาไก่ในประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 38-40 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ คือ ข้าวโพด และ กากถั่วเหลือง ลดลง 6% YoY และ 17% YoY ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. และยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท
Trading idea – ตามกระแสเงิน Domestic flow อสังหาฯ LH SPALI – ธนาคาร TMB – ตัวแทนค้าปลีกที่ยังไม่ขยับ KTC – สื่อกลางแจ้งกระตุ้นการใช้จ่าย VGI และ MACO let profit run + ลุ้นแปลง W / เก็งกำไรกับกระแส iphone ใหม่ COM7 ต้าน 14.80 / เก็งกำไร SQ (6.10-6.30) / เกาะกระแส EEC ไปกับ WHA และ ATP30
Trading ในกรอบ 1640-1650 : ภาพโดยรวมดัชนียังแกว่งตัว Sideway Up ในกรอบบนของ Uptrend Channel ระยะสั้นมองกรอบการแกว่งของดัชนีบริเวณ 1640-1650 โดยหากดัชนีปรับตัวขึ้นปะทะโซนแนวต้าน 1647-1650 เรายังคงคำแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรบางส่วนเช่นเดิม และหากหลุด 1640 แนะนำให้ Lock Profit เช่นกัน เนื่องจากดัชนีกลับมาแกว่งในกรอบล่างช่วง 1625-1640 กลยุทธ์การลงุทน (1) นักลงทุนที่มีหุ้น Let’s Profit Run ไปที่ 1647-1650 และทยอยขายทำกำไร และหากหลุด 1640 แนะนำ Lock Profit (2) นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1640 อาจใช้เป็นจังหวะเล่น Rebound ในระยะสั้น
แนวรับ : 1625, 1634, 1640 แนวต้าน : 1647, 1652
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / 13 ก.ย. สหรัฐรายงานตัวเลข PPI และตัวลขเงินเฟ้อในวันที่ 14 ก.ย.
ปัจจัยในประเทศ : จับตาบอร์ด EEC พิจารณา 101โครงการ ก่อนส่งเข้าครม.ในช่วงปลายเดือน / เพิ่ม EA, WORK เข้าดัชนี FSTE มีผล 15 ก.ย. หุ้นเทคนิค:
CPALL (B 63.00, Tp 65.75, Cut 62.00)
ROBINS (B 63.00, Tp 68.00, Cut 62.00)
ข่าวเด่น