คำแนะนำ
สามารถถือทองคำต่อได้หากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไปรอลุ้นขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,316 1,307 1,300
แนวต้าน 1,337 1,347 1,358
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 8.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้แรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)เพิ่มขึ้น 0.2%ในเดือนส.ค.ซึ่งถึงแม้จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด แต่ก็แสดงให้เห็นว่าตัวเลขดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นหลังจากขยับลง 0.1%ในเดือนก.ค. นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และคณะทำงานได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีได้เป็นผลสำเร็จภายในปีนี้โดยในสัปดาห์หน้าอาจมีการเปิดเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษีออกมาอีกด้วย ทั้งนี้ ความคืบหน้าดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งสกุลเงินดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ครึ่งที่ 1,320.51ดอลลาร์ในระหว่างการซื้อขายวานนี้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อตัวหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากการอ่อนตัวลงของราคาทองคำยังสามารถรักษาระดับเหนือบริเวณแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ อาจจะเห็นการดีดตัวกลับขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้ราคายังคงอ่อนตัวลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยขายทองคำออกมาเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอจังหวะเข้าซื้อคืนเมื่อราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวอาจถอยจุดเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไปที่ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น