ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน (15/09/60)


 “Selective Play” 

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1665/1669จุด รับ 1652/1643จุด เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นอีกครั้ง เพิ่มความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ แต่ตลาดน่าจะคุ้นเคยและตอบรับประเด็นดังกล่าวไปมากแล้ว ดังนั้นแนวโน้มของค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า หนุนราคาน้ำมันดิบโลกฟื้น และกระแส Fund Flows ที่ไหลเข้าไทยต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว คาดจำกัด Downside ตลาดได้  วันนี้ แนะนำ “Selective Play”  : * PTTEP, BBL, ITD *

Nomura : Key Factors

  • (-) Ex Factor: เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นอีกครั้ง เพิ่มความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์
  • (-) US Econ : CPI เดือนสค. เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ 1.9% หนุนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ย
  • (+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า กระตุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ และ Fund Flows ไหลเข้าได้
  • (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.2% สู่ $49.89/bbl / BRT +0.56% สู่ $55.47/bbl
  • (*) Fund Flow: ล่าสุดซื้อหุ้น +3035ลบ., Short Future -7308สัญญา, ซื้อBond +3,738ลบ.
  • (*) Central Bank: BOE คงดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงถัดไป
  • (*) Opp Day : PLANB, TRC, BJC, BIGC
  • Nomura Daily Top Picks: PTTEP, BBL, ITD

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ในกรอบแนวต้าน 1665/1669จุด แนวรับ 1652/1643จุด เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังไม่พอใจที่ UN ตอบโต้ด้วยการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึนอีกครั้ง ผสานการรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนสค.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ 1.9% มากกว่าคาดที่ 1.8% สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างโดดเด่น หนุนการตัดสินใจในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ได้ ซึ่งหากดูจาก FED Fund Future Rate จะพบว่า โอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธค. เพิ่มสูงขึ้นถึง 46.7% จาก 38.9% แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่าตลาดได้ตอบรับแนวโน้มที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้อยู่แล้ว คาดกระทบจิตวิทยาการลงทุนจำกัด ขณะที่ผลการประชุม BOE วานนี้ แม้จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม แต่ส่งสัญญาณที่จะลดการใช้มาตรการผ่อนคลายลง และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงถัดไป หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวดีตามเป้า ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าเด่น กดดันค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าในเชิงเปรียบเทียบ เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว โดยราคาน้ำมันดิบ Brent +0.56% สู่ $55.47/bbl ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หนุนกลุ่ม Energy นำตลาดได้ พร้อมทั้งคาดกระตุ้น Fund Flows ไหลเข้าไทยได้ต่อเนื่อง โดยหากดูจากยอดซื้อขาย จะพบว่า ต่างชาติซื้อสุทธิในไทย 11 วัน จาก 13วันทำการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 444ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดเป็นปัจจัยที่จำกัดความเสี่ยงตลาดได้ ส่วนประเด็นที่น่าติดตามวันนี้ คือ FSTE Rebalance ที่จะมีกระแสเงินไหลเข้าหุ้น EA, WORK ในช่วงท้ายตลาด แต่ตลาดตอบรับล่วงหน้าไปแล้ว ระวังแรงขายทำกำไรหุ้น 2 บริษัทดังกล่าว

Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%

Daily Strategy :   6 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Selective Play” เป็นหลัก 
1.   Fund Flow ไหลเข้าหนุนหุ้นในประเทศ กลุ่มธนาคาร(KBANK, KTB, BBL, SCB, TMB) การลงทุน(SCC, CK, STEC, ITD) วันนี้เน้น BBL, , CK, ITD, SCC
2.   Energy Rotation : คาดราคาน้ำมัน BRENT ระยะสั้นขึ้นสู่ USD57-60/bbl หลังล่าสุดยืนเหนือ 55.26เหรียญฯ จากแรงกดดันของอุปทานส่วนเกินลดลง ตามกำลังการผลิต US ต่ำ 77 และต้องใช้เวลาในการกลับมาดำเนินการผลิตเหมือนปี 2005 ที่กินระยะเวลากว่า 6-7เดือน หนุน PTTEP, PTT เด่น และ Laggard PTTGC, IRPC เด่น
3.   Tax Reform : สหรัฐฯจะเผยกรอบเวลาในการปฏิรูปภาษีในวันที่ 25 ก.ย.นี้ บวกต่อ IVL
4.   EEC Play : คาด EEC จะเข้าครม.วันที่ 19 ก.ย.นี้ หนุน Learder AMATA, WHA และกลุ่มที่ได้ประโยชน์แต่ราคายังไม่ตอบรับบวก NYT, ROJNA
5.   สศก. คาด Farm Income ในปี 2560-61 เพิ่ม 3-5% หนุน ROBINS, CPALL, BJC, HMPRO
6.   วันนี้ Mid-Small Cap จะ Outperform จับตา: BLAND, BWG, KAMART, JUBILE, PM, NYT

Investment Theme:
·   3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK,  ERW, MONO
        Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
        Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

PTTEP (TP98*):  Support: 88.25/87.5    Resistant: 91.25/92.0

  • Theme : Oil recovery
  • Earnings Outlook : คาดกำไรปี 17F ฟื้นตัว 145% y-y จากราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน โดยงวด 3Q17F มีแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น +3%q-q แต่ได้แรงชดเชยจากจากปริมาณการผลิตเร่งตัวขึ้นหลัง MT JDA เริ่มขายก๊าซให้ปิโตรนาส
  • Valuation : ราคาหุ้นวานนี้ฟื้นตัวสวยงาม และยังเป็นจุดน่าเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง  โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ 0.84x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.9x
  • Catalyst : มองพลังงานขั้นต้นจะเป็นกลุ่มนำตลาดได้อีกครั้ง จากมุมมองราคาน้ำมันจะเป็นขาขึ้น จาก Demand สูง (IEA ปรับเป้าหมาย Demand  ใช้น้ำมันต่อวันปี 2017-18F เพิ่ม 1.6%) ขณะที่ Supply จำกัด จากผลของพายุ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลากว่าที่ กำลังการกลั่นจะกลับสู่ระดับปกติ + วานนี้ NYMEX +1.2% สู่ $49.89/bbl

BBL (TP17F 210*):  Support: 188/185 Resistant: 192/195

  • Theme : Laggard Play
  • Earnings Outlook : คาดแนวโน้มกำไร 2H17F ยังเติบโต y-y จาก Mutual Fund Fee และ Bancassurance Fee และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง +12%y-y ในปี 2018F จากการเร่งเบิกจ่ายงบภาครัฐและภาคเอกชนหนุนสินเชื่อ Corporate ฟื้นตัว  
  • Valuation : Laggard กลุ่มธนาคาร โดยซื้อขายที่ PBV17F 0.9x โดยต่ำกว่า Mean กลุ่มฯที่ 1.54x
  • Catalyst : แนวโน้ม NPL เริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ผสานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการเร่งเบิกจ่ายงบภาครัฐฯและการลงทุนภาคเอกชน หนุนหุ้นกลุ่ม Bank ฟื้นตัวจากทิศทาง Fund Flow ไหลเข้า


ITD (TP18F 6*):  Support: 4.22/4.10 Resistant: 4.48/4.66

  • Theme : Laggard play
  • Earning Outlook : คาดกำไร 2H17 ทรงตัว h-h จากรายได้ก่อสร้างของโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่เพิ่มขึ้น และพลิกเป็นกำไร y-y และมองกำไรทั้งปี17F พลิกเป็นกำไร 392 ลบ. จากปีก่อนหน้าขาดทุนกว่า 109 ลบ.
  • Valuation : มูลค่าพื้นฐาน18F ที่ 6.00 บาท Upside สูง 38.3% สะท้อนปี 18F กำไรเติบโตกว่า 60% y-y ต่อเนื่องจากงาน Backlog ในมือ
  • Catalyst : ล่าสุดชนะประมูลโครงการรถไฟรางคู่ มาบกะเบา-จิระ มูลค่า 9.3 พันลบ. เพิ่ม backlog ในมือ หนุน รายได้เติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้า + ราคาหุ้นยังคง Laggard จาก YTD ปรับตัวลงมากว่า 12% สวนทางกับ SET ที่ปรับตัวขึ้น+7.5%

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)  
 


บันทึกโดย : วันที่ : 15 ก.ย. 2560 เวลา : 11:24:43

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:15 am