Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงเก็งกำไรเด่นในกลุ่มอสังหา นำโดย GOLD, UV, ANAN, ORI แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรกลุ่มธนาคาร KBANK, SCB , BBL และกลุ่มโรงกลั่น (TOP,IRPC) ในขณะที่ AOT เจอแรงขาย เช่นกัน จากประเด็นบริษัทเผยว่ามีโอกาสจ่ายค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิย้อนหลัง โดย ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,670 จุด (-1.9 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าเล็กน้อย (มี Biglot WORK มูลค่า 1.29 พันล้านบาท)
นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 1,895 ลบ. และคง Short สุทธิ SET50 Index Future ต่อเนื่องที่ 3,571 สัญญา (รวม 4 วันทำการ Short มากกว่า 5.0 หมื่นสัญญา)
Investment theme
FED คงดอกเบี้ย พร้อมวางแผนลดขนาดงบดุลเดือนตุลาคม ตามตลาดคาด : คืนที่ผ่านมา ผลการประชุม FOMC เป็นไปตามตลาดคาด โดยนาง Yelllen แถลงคงดอกเบี้ย พร้อม ระบุถึงโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งเป็น 1.25 -1.50% ในช่วงที่เหลือของปี (ประชุม เดือนธันวาคม) พร้อมระบุแผนการลดขนาดงบดุลเดือนละ 1.0 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในเดือนตุลาคมนี้ อีกทั้งได้ปรับลดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อปีนี้ และปีหน้า ลงสู่ระดับ 1.5% และ 1.9% ตามลำดับ ส่งผลให้ Dollar Index กลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ 92.2 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.28% อย่างไรก็ดี สำหรับการลงทุนในประเทศ เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามการประชุม กนง. วันที่ 27 กันยายน ซึ่งปัจจุบันมีกระแสกดดันไปยังธปท.ให้ลดดอกเบี้ย ซึ่งหากเป็นจริง จะส่งผลให้ Earning yield gap เพิ่มขึ้น (ส่งผลบวกต่อการลงทุน) และกลุ่มที่จะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มอสังหาฯ ในขณะที่ ระมัดระวังการลงทุนในกลุ่มธนาคาร
Investment theme : เราแนะนำชะลอแรงเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร และ Switch เข้ามายังกลุ่มอสังหา อย่าง LH (Proxy ของฝรั่ง), SPALI (รับรู้รายได้จาก Backlog ในช่วงครึ่งปีหลังกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท) และกลุ่มก่อสร้าง ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่ laggard SET มาก (CK) ส่วนกลุ่มพลังงานเน้น upstream ที่ PTT PTTEP
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ผบห. WORK ให้ผู้ลงทุนในวงจำกัด รวม 16 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 81.00 บาท / ส.อ.ท.ประกาศยอดส่งออกรถยนต์เดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 9.2% ที่ 1.02 แสนคัน ครั้งแรกในรอบ 14 เดือน / ขสมก.อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่อง E-ticket บนรถประจำทาง เพื่อเตรียมรองรับ บัตรสวัสดิการของรัฐที่จะเริ่มใช้ 1 ต.ค. (บางจังหวัดแจกวันที่ 17ต.ค.)
คาด NOK เข้าเกณฑ์ Cash balance และ ICN หากราคาปิดวันนี้มากกว่าเท่ากับ 4.00 บาท/หุ้น
SUPER-W4 เข้าซื้อขายพรุ่งนี้
Stock pick : PLAT
PLAT : เก็งกำไร/ สะสม 8.50 บาท
โครงการ เดอะ มาร์เก็ตฯ ได้รับการตอบรับดีจากผู้เช่าหลังจากเริ่มเปิดจองพื้นที่ คาดอัตราเข้าเช่าไม่ต่ำกว่า 90% เมื่อเปิดใน 4Q61 ซึ่งจะทำให้กำไรของ PLAT เติบโตก้าวกระโดด
แนวโน้ม 1H60 เติบโตดีจากปรับขึ้นค่าเช่า ขณะที่แผนเปิดโรงแรม และอาคารสำนักงานชัดเจนมากขึ้น หนุนกำไรเติบโตระยะยาว
แม้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นถึงเป้าหมาย 8.50 บาท แต่เรายังแนะนำให้เก็งกำไรได้ เนื่องจากยังมีอัพไซด์จากการ Rollover ราคาเป้าหมายไปเป็นปีหน้าซึ่งเป็นปีที่โครงการ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เปิด ขณะที่กลุ่มอสังหาฯที่มี mixed used จะได้ประโยชน์ด้าน valuation หากมีการปรับดอกเบี้ยลง
Trading idea – เก็งกำไร PM (13.00-15.30) หลังลงมาปิด Gap เรียบร้อยวานนี้ / สะสมกลุ่ม รฟฟ. ชีวมวล TPCH (20.00) PSTC (non rate) รับกระแสประมูล SPP Hybrid ต้น ต.ค. / เก็งกำไร ATP30 อีกบริษัทที่ได้ผลประโยชน์ทางอ้อมจากประเด็น EEC / เก็ง CHG คาดกำไร 3Q60 ดีจากฤดูกาล และ ประกันสังคม แต่ราคาหุ้นยังช้ากว่ากลุ่ม
Technical View
ไม่หลุด 1665 ยังลุ้นการ Break Out : ดัชนีอ่อนตัวสู่แนวรับ1665 แต่ยังสามารถดีดตัวกลับ ทำให้ขณะนี้ยังคอนเฟิร์มการ Break Uptrend Channel มองแนวต้านถัดไปที่1675 และ 1680 โดยรวมมองว่าแนวโน้มระยะกลางของการปรับตัวขึ้นจะยังคงไม่เสียไปหากไม่หลุดแนวรับที่ 1650ส่วนระยะสั้นภายในวันหากอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับที่ 1665 จะยังคงคอนเฟิร์มการ Break กรอบ Uptrend Channel และจะยังคงมีโมเมนตัมส่งต่อให้ Break แนวต้านที่ 1680 กลยุทธ์การลงุทน (1) นักลงทุนที่มีหุ้น Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1680 (2) นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1665 อาจใช้เป็นจังหวะเล่น Rebound ในระยะสั้น
แนวรับ : 1650, 1665 แนวต้าน : 1675, 1680
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : -
ปัจจัยในประเทศ : จับตาการประชุมกนง.วันที่ 27 ก.ย. / จับตาผลกระทบพรบ.จัดซื้อจัดจ้าง ที่ประกาศเริ่มใช้แล้ว
หุ้นเทคนิค:
MINT (B 39.00, Tp 42.00//43.50, Cut 38.50)
SCC (B 507.00, Tp 526.00, Cut 500.00)
ข่าวเด่น