คำแนะนำ
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,287-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,280 1,273 1,266
แนวต้าน 1,302 1,311 1,320
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 9.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากแนวโน้มที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ประกอบกับได้รับแรงกดดันหลังการเปิดเผยตัวเลขจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลงเกินคาด ส่วนดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ดีดตัวขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน ปัจจัยดังกล่าวส่งผลกดให้ราคาทองคำร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ 1,287.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน ก่อนที่ราคาทองคำจะลดช่วงติดลบลงจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงพร้อมกับดัชนีดาวโจนส์ที่กลับมาปิดลบ 53.36 จุดหลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวผลการประชุมเฟด ด้านกองทุน SPDR เดินหน้าถือครองทองคำเพิ่มวานนี้อีก 6.21 ตัน ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้นหลังนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ออกแถลงการณ์เตือนสหรัฐว่าจะเผชิญกับมาตรการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวจากเกาหลีเหนือในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับคืนนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำสามารถสร้างฐานเหนือแนวรับ 1,287-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,302 หรือ 1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำหลุดแนวรับดังกล่าว มีโอกาสปรับตัวลงไปหาแนวรับถัดไปที่ 1,273-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เสี่ยงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,287-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ )และ ขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,302หรือ 1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น