ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ยังคงไซด์เวย์ หลังปัจจัยภายนอกอ่อนแรงเล็กน้อย + ฟันด์โฟลว์ชะลอ
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์ต่อ หลังปัจจัยภายนอกอ่อนแอลง และฟันด์โฟลว์ช่วงสั้นชะลอ (ตามคาด) หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ เริ่มมีสัญญาณพักตัว ตามแรงขายปรับพอร์ตหุ้นตัวใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วันทำการ หลังจากเทรดเดอร์ตอบสนองต่อสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ซึ่งเพิ่มโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือน ธ.ค. สู่ 75% จากระดับ 70% ในวันก่อนหน้า ตามการรายงานตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ดันให้บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ยังคงปรับขึ้น ด้วยประเด็นดังกล่าว ผนวกกับการที่ SET Index วิ่งแรง 6.4% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เราประเมินตลาดหุ้นจะเข้าสู่ช่วงไซด์เวย์ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า แต่ความเสี่ยงทางลงมีจำกัด และเราแนะนำนักลงทุนให้คงอยู่ในฝั่ง “ซื้อ” ตามแนวโน้มหลักของเศรษฐกิจและผลประกอบการ บจ. ที่เร่งตัวขึ้นชัดเจนในครึ่งหลังของปีนี้ เมื่อวาน ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออก ส.ค. +13.2% YoY แข็งแกร่งกว่า consensus คาดค่อนข้างมาก (อ่านเพิ่มเติมในรายงานวันนี้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร WHA*, TPOLY และ TAPAC
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) 1) เมื่อวานนี้ราคาหุ้นฟื้นตัวแข็งแกร่ง และภาพรวมเป็นแนวโน้มขาขึ้น ประเมินแนวรับ 3.36 บาท แนวต้าน 3.70 บาท (Stop loss 3.30 บาท) 2) ประเมิน Valuation laggard หุ้นในกลุ่มฯ โดยมี PE 2560 เพียง 16.7 เท่า เทียบกับ TICON, JWD ที่ PE ปี 2560 = 48 เท่า และ 53 เท่า ตามลำดับ และ Dividend yield WHA ปีนี้สูงราว 2.1% เทียบกับ TICON, JWD ที่เพียง 1.3% และ 1.0% ตามลำดับ … ข้อมูล Bloomberg Consensus 3) รับอานิสงส์บวกจากการที่ ครม อนุมัติผ่าน ร่าง พรบ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (โครงการ EEC) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เตรียมเข้า สนช และคาดมีผลบังคับใช้ภายใน 4 – 5 เดือน ... นสพ โพสต์ทูเดย์
TPOLY (ยังไม่มีเป้าใน Consensus) 1) แนวโน้มราคาเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้าน 6.2 บาท และถัดไปที่ 6.5 บาท แนวรับ 5.6 บาท (Trailing loss 5.50 บาท) 2) ประเด็นการรับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่ง ของ TPCH มูลค่ารวม ±3 พันล้านบาท ซึ่ง TPCH จะนำเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการลงทุนวันที่ 29 ก.ย.นี้ (ล่าสุดที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นให้อนุมัติการลงทุน) 3) หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ TPCH อนุมัติฯ Backlog สิ้นปีนี้ ของ TPOLY จะรวม 3.3 – 3.4 พันล้านบาท 4) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร TPCH ปี 2561 – 62 จะเติบโต 55.6% YoY และ 82% YoY ตามลำดับ จากการทยอย COD โรงไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของ TPOLY ที่ถือหุ้น TPCH อยู่ 41.26% (ข้อมูล www.settrade.com)
TAPAC (เป้า Consensus 29.6 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นพักฐานหลังการ Sell on fact หลังการรายงานกำไร 3Q60 (ปิดงบ ก.ค.60) ซึ่งกำไร 93.2% YoY ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ ทดสอบแนวต้าน 24.1 บาท และปิดแก็บราคาที่ 24.9 บาท ตามลำดับ แนวรับ 22.5 (Stop loss 22 บาท) 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 (ปิดงบ ต.ค.60) จะโตเด่น YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้ธุรกิจอสังหาฯที่สวีเดนอีกราว ±1 พันล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าเทียบค่าเงินโครนสวีเดนต่อเนื่อง... คาดเป็นบวกต่อการรับรู้รายได้เป็นค่าเงินบาทใน 4Q60 (ปิดงบ ต.ค.60)
หุ้นมีข่าว
(+) ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ EARTH เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยแต่งตั้งให้บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จากัด เป็นผู้ทำแผน (SET) ในลำดับถัดไป EARTH ต้องมีการนำเสนอ แผนการดำเนินงานธุรกิจในอนาคตเพื่อนำส่งเจ้าหนี้ ซึ่งหากแผนฯ ได้รับความเห็นชอยชอบร่วมกันจะทำให้ EARTH สามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเจ้าหนี้เหมือนเช่นกรณีการฟื้นฟูกิจการของ SSI ที่เมื่อหากแผนได้รับการอนุมัติ ร่วมกันจะทำให้เจ้าหนี้มีโอกาสกลับรายการค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองของลูกหนี้รายนี้เป็นสำรองส่วนเกิน ซึ่งเจ้าหนี้หลักของ EARTH คือ KTB* ซึ่งตั้งสำรองแล้ว 1.1 หมื่นล้าน, KBANK* ตั้งสำรองไปแล้วประมาณ 2.5-3 พันล้านบาท
(+) ดัชนีเชื่อมั่นพุ่งแรงรอบ 7 เดือน (กรุงเทพธุรกิจ) นายสันติ กีระนันทน์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนส.ค. 2560 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอีก 3 เดือนข้างหน้า (พ.ย. 2560) อยู่ที่ 124.13 อยู่ในเกณฑ์ ร้อนแรง (bullish) เป็นครั้งแรกรอบ 7 เดือน หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.34% จากเดือนที่ผ่านมาที่อยู่ 104.13 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่มี การฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และเม็ดเงินทุนต่างประเทศ ไหลเข้าโดยต้องติดตามเรื่องความเสี่ยงจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ รวมถึงความชัดเจนนโยบายการเงินของสหรัฐ
(+) คมนาคมลงทุน 2.3 ล้านล้าน ลุยพัฒนาโลจิสติกส์ลดภาระค่าขนส่ง-ลุ้นกม.อีอีซีใช้ปลาย 60 (ไทยโพสต์) "พิชิต" แจงแผนงบปี 2.3 ล้านล้านบาท มุ่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ตั้งเป้า 64 ลดต้นทุนขนส่งลงเหลือ 12% ของจีดีพี จากปัจจุบันมากกว่า 14% หวังสร้างความมั่นใจและดึงดูดการลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ ด้าน "อุตตม" ลุ้น พ.ร.บ.อีอีซีบังคับใช้ปลายปีนี้ คาดชงเข้าสภาฯ 28 ก.ย.
(+) WHA*-AMATA* วิ่งรับ EEC ตุนที่ดินรองรับลงทุนอื้อ (ข่าวหุ้น) “WHA-AMATA” วิ่งรับอานิสงส์ EEC ตุนที่ดินในมือแน่นรองรับการลงทุน โดย WHA เตรียมไว้ 9 พันไร่ ส่วน AMATA ตุนไว้ 1.4 หมื่นไร่ ด้านบีโอไอลั่นยอดขอส่งเสริมลงทุน EEC คึกคัก ชี้ครึ่งปีแรกทะลัก 80,000 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีนี้ พุ่ง 150,000 ล้านบาท
(-) รฟท. เลื่อนเซ็นทางคู่ 5 สายต.ค. เหตุต้องรอปรับรายละเอียดสายมาบกะเบาฯ (ข่าวหุ้น) “ร.ฟ.ท.” เลื่อนเซ็นสัญญารถไฟทางคู่ 5 สาย เป็นกลางเดือน ต.ค. 60 จากเป้าเดิมคาดเซ็นเดือน ก.ย.นี้ เหตุต้องรอปรับรายละเอียดสายมาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญา 2 ก่อน คาดได้ชงครม.พร้อมผลประมูล 9 สัญญา วันที่ 3 ต.ค.นี้
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) พิจารณาแนวต้าน 7.25 บาท หากผ่านได้ ประเมินขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.7 บาท แนวรับ 6.9 บาท (Stop loss 6.8 บาท) ... ภาครัฐฯ ออกกฏหมายห้ามโฆษณานมผงสำหรับทารก (ลงราชกิจจานุเบกษา วันที่ 10 ก.ค.60 เริ่มบังคับใช้ 10 ก.ย.60) คาดเป็นบวกต่อยอดขายเครื่องปั๊มนมแม่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับนมแม่ของ MOONG
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้าน 16.5 บาท กำหนด Trailing Stop 15.4 บาท
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) พิจารณาแนวต้านแรก 13.7 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินทดสอบแนวต้าน 14.5 บาท และถัดไป 14.8 บาท แนวรับ 13.2 บาท (Trailing stop 13 บาท)
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว คาดแกว่งตัวในกรอบ 3.4 – 4.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ
SEAFCO (เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท) แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว” แนวรับ 15 บาท แนวต้าน 15.5 บาท และถัดไป 16 บาท (Stop loss 14.5 บาท)
ANAN* (เป้าพื้นฐาน 6.1 บาท) ยืนเหนือแนวราคา 5.6 บาทได้ แนะนำ “Let profit run” และกำหนดให้เป็นจุดขายล๊อกกำไรหากต่ำกว่า
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
DTAC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 53 บาท เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q60 จะอยู่ที่ 614 ล้านบาท (-17% QoQ, -7% YoY) โดยถูกกดดันจากรายได้ค่าบริการที่ทรงตัว และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผลประกอบการใน 4Q60 น่าจะสดใสขึ้นจากปัจจัยด้านฤดูกาล เรามีแนวโน้มจะปรับเพิ่มประมาณการกำปี 2560-61 ขึ้นอีกหลังจากที่บริษัทประกาศงบ 3Q60 ออกมา นอกจากนี้เรามองว่าราคาหุ้นได้ปรับลดลงมาจนน่าจะมี downside ที่จำกัดแล้ว เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำจาก "ขาย" เป็น "ถือ"
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1669 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ปรับขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1669 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1669-1684 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1669 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1669-1659 จุด
แนวรับวันนี้: 1669/1660 แนวต้านวันนี้: 1675/1683
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ข่าวเด่น