Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงบ่าย นำโดยหุ้นใหญ่อย่าง PTT ADVANC และ AOT ในขณะที่ยังคงมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มอสังหาต่อเนื่อง (LPN, ORI, ANAN, SIRI) โดยหุ้นขนาดกลางหลายตัวมีแรงเก็งกำไรเด่น เช่น CBG, BEAUTY ,BCPG, BCP และ KCE ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,667 จุด (+8.5 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 5.0 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ 6.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งที่ 627 ลบ. แต่กลับมา Short สุทธิ SET50 Index Future ที่ 7,395 สัญญา
Investment theme
เริ่มเห็นสัญญาณการแข็งค่าของ USD : เราเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นเอเชียนำโดย ตลาดอินเดีย เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และไต้หวัน รวมสูงกว่า 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (MTD) ประกอบกับ Dollar index เริ่มกลับมาแข็งค่าอีกครั้งบริเวณ 92.6 (จากระดับต่ำสุดที่บริเวณ 91.01) สะท้อนความพร้อมการเริ่มลดขนาด US balance sheet ในเดือนตุลาคม และ โอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเป็น 1.25-1.50% ในเดือนธันวาคมที่มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับทิศทางค่าเงินในประเทศ เรามองว่ารัฐบาลพยายาม ทำหลายวิธีให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อน ล่าสุดเตรียมออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทรอบพิเศษเพิ่มขึ้น(บาทบอนด์) โดยอนุญาติให้นักลงทุนต่างประเทศระดมทุนในประเทศ และสามารถนำไปใช้ต่างประเทศ เพื่อเป็นอีกวิธีให้เงินบาทอ่อนค่า ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยมหภาคกดดันการลงทุน สำหรับ SET มีความพยายามยืนเหนือเส้น 10 วัน เพื่อรักษาให้ภาพเทคนิคยังดูดี ส่งผลให้เรามองแนะนำนักลงทุน ว่าสามารถเก็งกำไรได้ (Go with the flow) แต่ควรมีจุด Take profit, cut loss ที่ชัดเจน
Investment theme: เก็งกำไรกลุ่มอสังหา โดยเรามองว่า Housing demand Index ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และจะค่อยๆ ฟื้นตัว โดยเราคาดการเปิดโครงการใหม่ (new launch) ในไตรมาส 4 ของหุ้นในกลุ่มอสังหาที่เรา Cover มีมูลค่าสูงกว่า 9.0 หมื่นล้านบาท (+20%QoQ) คาดทำให้หุ้นในกลุ่มนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา Trump ลงนามสั่งห้ามคนเกาหลีเหนือ เวเนซุเอลาและชาดเข้าสหรัฐ (Travel ban) มีผลบังคับใช้ 18 ต.ค. / บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัยแจ้ง ชำระเงินให้ CPN แล้ว 3,500 / Brent ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบปีที่ 59.09 เหรียญ/บาร์เรล / ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอีกครั้งที่ 1,309
NOK ขึ้นเครื่องหมาย XR 1:1@1.50 วันนี้
TCMC ขึ้นเครื่องหมาย XR 2:1@3.00 แถม 1 warrant วันนี้
SKN เข้าเทรดวันนี้วันแรก
Stock pick : CPALL
CPALL : เก็งกำไร 68.00 บาท
จากประเด็นรัฐบาลเริ่มแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ประชาชนกว่า 11ล้านคนทั่วประเทศ (ค่าเดินทาง ,ค่าอาหารร้านธงฟ้า และค่าก๊าซหุงต้ม) รวมประมาณ 845 บาท/เดือน ถือเป็นประเด็นบวกทางอ้อมต่อกลุ่มค้าปลีกและการบริโภคในประเทศ ซึ่งคาด CPALL จะได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวด้วย ยอดซื้อต่อบิลประมาณ 67-70 บาท และมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 10,200 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ
บริษัทฯ อยู่ระหว่างการขอ License ขยายสาขาไปยัง ลาวและกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่การแข่งขัน Modern trade ต่ำ เปิดโอกาสเติบโต
คาดกำไร 3Q60 เติบโต YoY จากขยายสาขา และกิจกรรมสะสมแสตมป์
Trading idea – เก็งกำไร MACO (2.00+/-) / ชะลอแรงเก็งกำไรในกลุ่มธนาคาร ภายหลังพบว่าตัวเลข Loan growth ของธนาคารใหญ่ที่เรา cover เดือน ส.ค. โตเพียง 0.3% MoM (-0.6%QTD) ในขณะที่ NPL คาดยังอยู่ระดับสูง / เก็งกำไร PTTEP (96.00) จากราคาน้ำมันดิบ / หุ้นแถวสองใน supply chain ผลิตน้ำมันดิบ TTA (12.60), PRM
Technical View
หยุดลงและ Sideway Up ทดสอบ 1675 : ดัชนีสามารถหยุดลงและเริ่มดีดตัวขึ้นตามกรอบ Uptrend Channel ระยะสั้นเรามองว่ามีโอกาสแกว่ง Sideway Up ทดสอบแนวต้านของกรอบที่บริเวณ 1675 และ 1680 ซึ่งที่แนวต้านดังกล่าวให้พิจารณาแรงขายประกอบ เนื่องจากเป็นโซนแนวต้าน High เดิม จึงคาดอาจมีแรง Take Profit ในระยะสั้น ส่วนภายในวันหากอ่อนตัวไม่ควรหลุดแนวรับที่ 1665 หรือ 1660 มองว่าเป็นโอกาสสะสม เพื่อ Trading กลยุทธ์การลงทุน (1) นักลงทุนที่มีหุ้น เน้น Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1675, 1680 (2) นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น รอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัวสู่แนวรับ 1665 หรือ 1660
แนวรับ : 1665, 1660 แนวต้าน : 1675, 1680
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้านโยบายภาษีสหรัฐ 28 ก.ย.สหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 , รายงาน Core-PCE และตัวเลขการบริโภค /วันที่ 29 ก.ย. จีนประกาศ PMI วันที่ 29 ก.ย. /
ปัจจัยในประเทศ : จับตาการประชุมกนง.วันที่ 27 ก.ย. / จับตาผลกระทบพรบ.จัดซื้อจัดจ้าง ที่ประกาศเริ่มใช้แล้ว
หุ้นเทคนิค:
BANPU (B 17.50, Tp 18.50, Cut 17.20)
CPF (B 26.00, Tp 27.75, Cut 25.50)
ข่าวเด่น