“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway” แนวต้าน 1672/1678จุด แนวรับ 1657/1652จุด ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเด่น ตอบรับตลาดน้ำมันที่เริ่มเข้าสู่ภาวะสมดุล แต่ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯกดดันบรรยากาศการลงทุนผสานถ้อยแถลงที่ Hawkish ของประธาน FED สาขานิวยอร์กและชิคาโก เพิ่มโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ หนุนค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า กดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงสั้น วันนี้แนะนำ “Selective Play” : IVL, NYT, SNC
Nomura : Key Factors
- (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +3.08% สู่ $52.22/bbl / BRT +3.80% สู่ $59.02/bbl
- (+) OIL: OPECมองตลาดน้ำมันเข้าสู่ภาวะสมดุลและมีแนวโน้มขยายเวลาลดกำลังการผลิต
- (+) OIL: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุจะให้ความร่วมมือ 100% ในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน
- (*) Ex Factor: ถ้อยแถลงประธานFEDสาขานิวยอร์กและชิคาโกมีมุมมองค่อนข้าง Hawkish
- (*) Ex Factor: จับตาสุนทรพจน์ของนางเยลเลนคืนนี้ ถึงมุมมองต่อการขึ้นดอกเบี้ย
- (*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น +627ลบ, Short Future -7,395สัญญา,ขายBond -479ลบ
- (-) Geopolitical Risk: สหรัฐฯและเกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยวาจา กดดันบรรยากาศการลงทุน
- Nomura Daily Top Picks: IVL, NYT, SNC
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ในกรอบแนวต้าน 1672/1678จุด แนวรับ 1657/1652จุด ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเด่น ตอบรับมุมมองกลุ่ม OPEC ถึงตลาดน้ำมันโลกที่กำลังเข้าสู่ภาวะสมดุล และแนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตออกไปในการประชุมเดือนมค. 2018 ก่อนที่มาตรการจะหมดลงในช่วง มีค.2018 นอกจากนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุจะให้ความร่วมมือ 100% ในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ผสานกับไนจีเรียที่เปิดเผยว่าได้ผลิตน้ำมันในปริมาณต่ำกว่าที่ได้ระบุไว้ในข้อตกลง ส่งผลให้น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นกว่า +3.80% สู่ระดับ 59.02 เหรียญ/บาร์เรล ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี หนุนกลุ่ม Energy ฟื้นนำตลาดได้ แต่อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น หลังมีการออกมาตอบโต้ด้วยวาจา อาจเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับถ้อยแถลงของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธาน FED สาขา New York ที่มองว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น และมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ได้ รวมถึงถ้อยแถลงของนายชาร์ลส์ อีแวน ประธาน FED สาขา Chicago เห็นด้วยกับการที่ FED ควรจะค่อยๆปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปจนระดับ 2.7% ในอีก 2 ปี ซึ่งถ้อยแถลงของประธาน FED ทั้ง 2 ท่าน หนุนโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ กระตุ้นค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 92.618 จุด เป็นปัจจัยกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะสั้น ส่วนปัจจัยที่น่าติดตามวันนี้ จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธาน FED ที่รัฐโอไฮโอ ถึงสัญญาณของการปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงถัดไป
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : 7 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Mid – small cap Play” เป็นหลัก
1. Bank play : เป็นจุดซื้อกลับหลังราคาหุ้นลงมาตอบรับความกังวลตลาดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย กนง.ประชุม 27 ก.ย. โดยเราคาดคงดอกเบี้ย KBANK (ต้าน 213/215) BBL (ต้าน 188.5/190) TISCO (ต้าน 78/80.75) TMB (ต้าน 2.54/2.6)
2. Tourism Play : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนส.ค. สูงสุดที่ 3.13 ล้านคน +8.66% y-y จากนักท่องเที่ยวจีน +10.3%y-y และตะวันออกกลาง +19.35%y-y หนุน MINT, ERW เด่น ส่วน UAE +47%y-y และ 3Q17TD +20%y-y บวกต่อ รพ ที่มีผู้ป่วยต่างชาตื BDMS, BH
3. Initial Coverage สัปดาห์ก่อน BUY FN(TP7) และ TNR (TP 24) :
2.1)FN ซื้อสะสมรอการเติบโตปี 2018 โดยราคาหุ้นลงมาตอบรับ3Q17 ที่จะ Bottom ไปแล้ว ขณะที่จุดเด่น คือ 1) โมเดลธุรกิจแข็ง มี Net margin สูง และมี Recurring income มากขึ่นจากค่าเชา 2) โอกาสเติบโตยังสูงจากจำนวนสาขาน้อย ขณะที่สาขาใหม่คืนทุนได้ไว 3) คาดกำไรจะกลับมาเติบโตแรงปี 2018F +50% และ CAGR 3 ปีเฉลี่ยปีละ 30%
2.2) TNR : คาดกำไร 2H17F ฟื้นตัว และเพิ่มต่อ 2018F 32% จากค่าการตลาดลด + Market share เพิ่ม ขณะที่ ราคาหุ้นยังเป็นจุดเข้าซื้อที่ดี
4. Auto Play : ยอดส่งออกรถยนต์เดือนส.ค.17 สูงสุดในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 102.9 แสนคัน เพิ่มขึ้น +9.3% จากกำลังซื้อที่เริ่มกลับมาจากโซนตะวันออกกลาง NYT(ต้าน6.2) และ SNC(ต้าน 15.7/16.2) น่าสนใจหลัง ผู้นำ AH, SAT Outperform ไปแล้ว
5. Small Cap ที่พื้นฐานดี + ภาพเทคนิคสวย JUBILE(กำลังซื้อฟื้น+ยอดขายคิตตี้เติบโตเด่น ต้าน 23.4/24), PM( ทะลุ High ลุ้นไปต่อ ต้าน 14/14.5)
6. Investment Related : ครม อนุมัติ EEC กลุ่มนิคม(AMATA, WHA, NYT, ROJNA) อสังหาริมทรัพย์(SIRI, SPALI, AP, LH) และรับเหมาฯ(ITD, CK, SCC)
7. สศก. คาด Farm Income ในปี 2560-61 เพิ่ม หนุน ROBINS, CPALL, BJC, HMPRO
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
IVL (TP18F 46*): Support: 41.0/40.5 Resistant: 43.0/44.0
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 17F ที่ 14,083 ล้านบาท +47% y-y จากทั้ง Volume ที่เพิ่มตามการขยายกำลังการผลิต (PTA) และอัตราทำกำไรที่ยังควบคุมได้ดีจากการมีโครงการ Upstream-Downstream ที่แข็งแกร่ง และมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องใน 2H17F จากหลายโครงการกลับมาเดินเครื่อง
- Valuation : กำไรจะกลับสู่ Cycle ขาขึ้นรอบใหม่ในช่วง 3 ปีนี้ โดยราคาหุ้นคิดเป็นระดับ PER ปี 2017F ราว 17.3x ยังต่ำกว่า Cycle ขาขึ้นรอบก่อน (2011) ซึ่งสูงเกิน 20x
- Catalyst : Spread PTA +9.8% m-m ที่ US$ 102/ton ผลักดันผลการดำเนินงาน 2H17F เติบโตต่อเนื่อง
NYT (TP18F 7.65*): Support: 5.7/5.5 Resistant: 6.2/6.5
- Theme : Bottom Play
- Earnings Outlook : คาดกำไร 2H17F ฟื้นตัวดีขึ้นเทียบ h-h จากยอดส่งออกรถยนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และใน 1Q18F เริ่มบันทึกรายได้จากพื้นที่เช่าบนท่าเรือ 1.2 แสนตร.ม. หนุนคาดกำไรสุทธิ18F เติบโต +17.4% y-y และมี upside risk จากค่าเช่าที่สูงขึ้น 30% จากสมมติฐานเดิมจากปัจจัยบวก พรบ. EEC จะเพิ่มฐานกำไรสุทธิปี18F/19F/20F ที่ระดับ +4.3%/+5.7%/+6.4% ตามลำดับ
- Valuation : ภาพรวมตลาดที่มี sentiment ดี หนุนความน่าสนใจใน Mid-small cap โดย NYT เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมามากและเริ่มยืนได้อีกครั้ง มี Downside ต่ำ โดยซื้อขาย PER ปี 2018F เพียง 15.3x เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯที่ 29.1x + Dividend yield 18F คาดจ่าย 0.35 บาท/หุ้นหรือสูงถึง 6.0%
- Catalyst : EEC จะบวกต่อ NYT ซึ่งครอบครองพื้นที่ให้เช่าขนาดใหญ่ 75 ไร่ ผืนสุดท้าย ที่สามารถทำเป็นพื้นที่ปลอดภาษีหรือ Free zone ได้ ติดท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้ เราคาดว่า ราคาให้เช่าจริง มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการเดิมของเราราว 30% คาดมีข้อสรุปภายใน 4Q17F + ยอดส่งออกรถยนต์ส.ค. สูงสุดรอบ 14 เดือน +9.3% y-y
SNC (TP18F 20.8*): Support: 15.0/14.7 Resistant: 15.7/16.0
- Theme : Bottom Play
- Earnings Outlook : หลังการย้ายโรงงานมารวมศูนย์ตั้งแต่ปลายปีก่อน เริ่มทยอยส่งผลต่อรประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น ผสานกลยุทธ์ด้าน cost saving เข้มข้น ช่วยหนุนกำไร 2H17F ยังเป็นการเติบโต y-y และจะ peak อีกครั้งใน 1Q18F ถือเป็นช่วงที่บริษัทกำลังจะเติบโตด้านผลกำไรอีกครั้งในรอบ 5 ปี
- Valuation : ณ ระดับราคาปัจจุบันถือว่ามี Downside จำกัด ทั้งจากประมาณการ Consensus (ความคาดหวังต่ำ) และ Valuation ดึงดูดทั้งมิติ PER 10.2x, P/CFO 5.9x, Div yield 6.3%, ROE 16.6% + ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
- Catalyst : ยอดส่งออกรถยนต์ ฟื้นตัวในรอบ 14 เดือน +9.3% y-y + มีประชุมนักวิเคราะห์ 27 ก.ย.นี้
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น