คำแนะนำ
เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยอาจต้องพิจารณาโซน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ อย่างไรก็ตามหากราคาปรับตัวขึ้นไปและสามารถยืนเหนือ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเลือกลดสถานะขายลงและคำนึงถึงการแกว่งตัวของราคาในระดับสูง
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,291 1,280 1,273
แนวต้าน 1,313 1,320 1,332
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 16.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำถูกแรงขายทำกำไรกดดันหลังพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 1,313.54 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากสถานการณ์ความขัดแข้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ระบุว่า เฟดจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางของเงินเฟ้อก็ตาม ถ้อยแถลงดังกล่าวหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มวานนี้ 6.50 ตัน ขณะที่ในวันนี้เวลา 14.05 น.ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คาดจะคงอัตราดอกเบี้ย และติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐและถ้อยแถลงของนางลาเอล เบรนาร์ดหนึ่งผู้ว่าการเฟด
ปัจจัยทางเทคนิค
หากระหว่างวันราคาทองคำกลับขึ้นยืนเหนือ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์อาจทำให้มีแนวโน้มดันขึ้นสู่บริเวณ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซน 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะออกมา สำหรับวันนี้ประเมินแนวรับที่ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยอาจรอให้มีแรงขายลงมายังบริเวณแนวรับในบริเวณ 1,291ดอลลาร์ต่อออนซ์จึงทยอยเข้าซื้อ แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว อาจต้องชะลอการซื้อออกไปก่อน ขณะที่การเปิดสถานะขาย อาจต้องชะลอออกไปหากราคาปรับตัวขึ้นไปเหนือบริเวณ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น