ได้ sentiment บวกจากการเปิดเผยมาตรการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น และคาดว่างบ Q3/60 ของกลุ่มพลังงานจะเติบโต รวมถึงแรงซื้อการทำ Window dressing ปิดงบ Q3/60 แต่ฟันโฟลว์ต่างชาติที่ชะลอตัวจะเป็นแรงกดดันดัชนี ประเมินกรอบ 1,665 - 1,680 จุด
*ภาวะตลาดหุ้นไทย
วานนี้ดัชนี SET ปิดที่ 1,670.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.52 จุด หรือ 0.03% มูลค่าการซื้อขาย 54,806.62 ล้านบาท
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,401.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.35 จุด หรือ 0.10% ดัชนี SET50 ปิดที่ 1,070.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.38 จุด หรือ 0.13%
ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 566.01 จุด ลดลง -5.66 จุด หรือ -0.99%
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 83.19 ลบ.
*ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ
- ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 22,340.71 จุด เพิ่มขึ้น 56.39 จุด หรือ 0.25% , ดัชนี S&P ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 2,507.04 จุด เพิ่มขึ้น 10.20 จุด หรือ 0.41% และดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 6,453.26 จุด เพิ่มขึ้น 73.10 จุด หรือ 1.15%
- ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 27 ก.ย. 60 ปิดที่ระดับ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ หรือ 0.50%
*ประเด็นที่ต้องติดตาม
- 28 ก.ย. ร่างกฎหมาย EEC จะนำเข้าที่ประชุม สนช.
- ติดตามนายกฯ ญี่ปุ่นนายอาเบะเตรียมยุบสภาเพื่อเลือกตั้งเดือนหน้า
- การทำ Window Dressing ปิด NAV Q3/17 ในช่วงสัปดาห์นี้
*โบรกฯ คาดผันผวน
บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ sentiment เชิงบวกจากการเปิดเผยมาตรการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ ,ราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงและคาดว่างบ Q3/17 ของกลุ่มพลังงานจะเติบโต รวมถึงแรงซื้อการทำ Window dressing ปิด Q3/17 อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอตัวจะเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,665 - 1,680 จุด
บล.เคจีไอ คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์ต่อ ฟันด์โฟลว์ยังมีแนวโน้มชะลอในช่วงสั้น (ดอลล่าร์ฯ แข็งต่อ + บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ เด้งต่อ กดดันโฟลว์หุ้นเอเชีย) เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นตามปัจจัยบวกเกี่ยวกับมาตรการลดภาษี หลังทรัมป์เสนอแผนภาษีเข้าสภาคองเกรสอย่างเป็นทางการ ผนวกกับกลุ่ม ส.ส. ประมาณ 35 คนแถลงสนับสนุนแผนภาษีของทรัมป์ ข่าวดังกล่าวผนวกกับถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อวันพุธซึ่งเปิดช่องขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ผลักดันดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ และกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลง
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ KGI ประเมินเงินบาทจะอ่อนเพียงช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย เมื่อวานนี้ กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตามคาด และปรับเพิ่มเป้า GDP ปี 2560 จาก 3.5% เป็น 3.8% เท่ากับประมาณการของ KGI ทั้งนี้
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้นหลังทรัมป์เปิดเผยแผนการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ทั้งบุคคลธรรมและนิติบุคคลเมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนด้าน FED ที่จะยังขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ เม็ดเงินส่วนใหญ่จึงไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำที่ปรับตัวลงแรงติดต่อกัน 2 วัน ไหลเข้าหาดอลลาร์รวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อตลาดหุ้น
ข่าวเด่น