กลยุทธ์วันนี้
Selective Buy
Smart Pick
1. สะสม AAV : ราคาปิด 6.40 บาท เป้าหมายระยะสั้น อิงเทคนิคที่ 6.75 บาท
a) คาดผลประกอบการ 3Q60 จะฟื้นตัว QoQ จาก Loading Factor ที่ทรงตัวในระดับสูงราว 86% และราคาตัวเฉลี่ยปรับตัวขึ้น Qoq สะท้อนให้เห็นว่ากำไรปกติได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q60 ที่ผ่านมา
b) มี Catalyst จากการเข้าสู่ Golden Week ของจีนระหว่างวันที่ 1-8 ต.ค. ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อ AAV เนื่องจากมีเส้นทางบินระหว่างไทย-จีนหลายเส้นทาง และเป็นผู้นำตลาด Low Cost Airline ในภูมิภาค
c) ผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการของ ICAO ที่จะประกาศช่วงกลางเดือน ต.ค. คาดว่าไทยจะได้รับการปลดล็อกธงแดง และส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน เนื่องจากจะกลับมาขยายเส้นทางใหม่ได้อีกครั้งและช่วยปลดล็อก Overhang ที่เรื้อรังมากว่า 2 ปี
2. สะสม SCB : ราคาปิด 153.50 บาท ราคาเหมาะสม 170.00 บาท
a) คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังวานนี้ กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2560 ขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมที่ 3.5%
b) จะเข้าสู่การรายงานผลประกอบการ 3Q60 ในช่วงกลางเดือน ต.ค. ประเมินเบื้องต้น คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตทั้ง YoY และ QoQ
c) ความเสี่ยงในการตั้งสำรองหนี้ของ PACE เริ่มลดลง หลังมีประเด็นข่าวได้พันธมิตรเป็นกลุ่มเซ็นทรัล มีโอกาสเข้าซื้อสิทธิ์ในการร่วมบริหาร Dean and Deluca (ไม่รวมสหรัฐฯ) มูลค่าราว 3.3 พันล้านบาท ซึ่งหากข่าวเป็นจริงจะส่งผลให้กระแสเงินสดของ PACE ดีขึ้น และเป็นบวกโดยตรงต่อ SCB ที่เป็นเจ้าหนี้หลัก
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวในกรอบบริเวณ 1660-1675 จุด เป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน ปิดที่ 1666.36 จุด ปรับตัวลดลง 3.91 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6.2 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิทั้ง 2 กลุ่มราว 2.9 พันล้านบาท และ 1.2 พันล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 2.7 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศที่มีสถานะ Long สุทธิราว 2.9 พันสัญญา ในขณะที่สถานะคงค้าง ลดลงเหลือ 3.75 แสนสัญญา เนื่องจากสัญญา Serie U หมดอายุวานนี้ ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีก 1.3 หมื่นล้านบาท รวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 0.27% ปิดที่ 33.38 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ
กลยุทธ์วันนี้
การสุดท้ายของไตรมาส 3 คาดว่า SET INDEX จะแกว่งทรงตัวออกข้าง กรอบ 1660-1675 จุด เชื่อว่า แนวต้าน 1675 จุดจะยังทำงานได้ดี ในภาวะที่กระแสเงินทุนต่างชาติ เริ่มชะลอตัว ทิศทางการอ่อนค่าของเงินบาทช่วงสั้น แต่คาดว่า แรงขายของต่างชาติ น่าจะจำกัด เพราะกลุ่มนี้ ซื้อสุทธิสะสมเพียงแค่ 1 หมื่นล้านบาทใน YTD เท่านั้น ด้านกองทุนในประเทศ เราไม่ได้คาดหวังกับ Window Dressing มากนัก เพราะนักลงทุนกลุ่มนี้ เป็นผู้ซื้อสุทธิหลักในตลาดหุ้นไทยมาตลอด ทั้ง YTD 6.07 หมื่นล้านบาท และ QTD 9.8 พันล้านบาท
สหรัฐฯรายงาน GDP 2Q60 รอบสาม ขยายตัว 3.1% ดีกว่าตลาดคาดที่ 3% แรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐฯมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโต 3.3% อย่างไรก็ดี คาดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสชะลอตัวลงใน 3Q60 เพราะผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วี่ย์ ที่สร้างความเสียหายให้กับรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ
กลยุทธ์ ทยอยสะสมหุ้นเมื่อราคาย่อตัวลงมา เก็งกำไรผลประกอบการ 3Q60 ในกลุ่ม Big Cap (ADVANC/ PTT/ SCB) และกลุ่ม SMID Cap (AAV/ ERW/ JWD/ MCS/ WHAUP)
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- สหรัฐฯรายงาน GDP 2Q60 รอบ 3 ขยายตัว 3.1% ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.0%
- สนช. รับหลักการ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษเศรษฐกิจภาคตะวันออก
- ศาลตัดสินให้ AQ ชำระค่าเสียหาย 8.4 พันล้านบาท ต่อ KTB
- ติดตามการรายงาน GDP อังกฤษ 2Q60, PMI จีน และเงินเฟ้อ EU 29 ก.ย.
- ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 29 ก.ย.
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
- ติดตามการรายงาน PMI จีน วันที่ 30 ก.ย.
- ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย, PMI สหรัฐฯ และ EU วันที่ 2 ต.ค.
- ติดตามการรายงานการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯของ ADP และการกล่าวปาฐกถาของ Janet Yellen วันที่ 4 ต.ค.
- ติดตามการรายงานภาวะการจ้างงานสหรัฐฯ วันที่ 6 ต.ค.
ข่าวเด่น