CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway” แนวต้าน 1673-1675จุด แนวรับ 1659-1656จุด ความคืบหน้าแผนปฏิรูปภาษี เพิ่มความคาดหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กระตุ้นค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า ส่งผลให้ Fund Flows เริ่มผันผวนในระยะสั้น แต่แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยล่าสุด สนช.เห็นชอบพรบ. EEC เบื้องต้น เพิ่มแรงเก็งกลุ่มนิคมได้ สำหรับวันนี้แนะนำ “Mid-Small Cap Play” : NYT, PSTC, SGP
Nomura : Key Factors
- (+) Int Factor: พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผ่านความเห็นชอบจากสนช.
- (*) Int Factor: นายกฯเดินทางเยือนสหรัฐฯ 2-4ตค.นี้ เพื่อหารือความมั่นคงทางการค้า
- (*) US: ความคืบหน้าแผนปฏิรูปภาษีหนุนค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่า ทำให้Flowsผันผวนสั้น
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.11% สู่ $51.56/bbl / BRT -0.85% สู่ $57.41/bbl
- (-) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น -2855ลบ., Short Future -2666สัญญา,ขายBond -13,165ลบ.
- Nomura Daily Top Picks: NYT, PSTC, SGP
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ในกรอบแนวต้าน 1673-1675จุด แนวรับ 1659-1656จุด ความคืบหน้าของแผนปฏิรูปภาษีของ Donald Trump เพิ่มความคาดหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างมีนัยสำคัญ ผสานกับตัวเลข Final GDP 2Q17 ที่เพิ่มขึ้นสู่ 3.1% มากกว่าคาดที่ 3.0% บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนให้ FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ โดยความคืบหน้าของนโยบายภาษี ผสานกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตดี หนุนให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นเด่นในระยะสั้น ส่งผลให้ทิศทาง Fund Flows เริ่มผันผวน กดดันภาพรวมการลงทุนสั้น แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มในประเทศยังคงสดใส จากความคืบหน้าโครงการภาครัฐฯที่ถือเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจในประเทศ โดยล่าสุด พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผ่านความเห็นชอบจากสนช.แล้ว คาดเพิ่มแรงเก็งกำไรในกลุ่มนิคมได้ต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม 1)การรายงานอัตราเงินเฟ้อ (Core PCE) ของสหรัฐฯ 2)ตัวเลขเศรษฐกิจไทย นำโดย เงินสำรองระหว่างประเทศ (Foreign Reserve) และตัวเลขส่งออกโดยธนาคารกลางแห่งประเทศไทย
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : 7 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Mid-Small Cap Play” เป็นหลัก
1. Economic recovery : สศก. คาด Farm Income ในปี 2560-61 เพิ่ม + สคค. ปรับเพิ่ม GDP growth 2017F จาก 3.5% เป็น 3.8% + สมาคมธนาคารไทยเตรียมปรับเพิ่มเป้าสินเชื่อแบงก์จากเดิมคาด +3.5% : เน้นค้าปลีก ROBINS, CPALL, BJC, HMPRO และธนาคาร (KBANK, BBL, TISCO, TMB)
2. Tax reform : ลดภาษีนิติบุคคลสหรัฐ คาดใช้ได้เร็วสุดต้นปี 2018F +IVL
3. Tourism Play : นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนส.ค. สูงสุดที่ 3.13 ล้านคน +8.66% y-y จากนักท่องเที่ยวจีน +10.3%y-y และตะวันออกกลาง +19.35%y-y หนุน MINT, ERW เด่น ส่วน UAE +47%y-y และ 3Q17TD +20%y-y บวกต่อ รพ ที่มีผู้ป่วยต่างชาตื BDMS, BH
4. Initial Coverage สัปดาห์ก่อน BUY FN(TP7) และ TNR (TP 24) :
5. Auto Play : ยอดส่งออกรถยนต์เดือนส.ค.17 สูงสุดในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 102.9 แสนคัน เพิ่มขึ้น +9.3% : NYT(ต้าน6.5/6.8) น่าสนใจหลัง ผู้นำ AH, SAT Outperform ไปแล้ว
6. Small Cap ที่พื้นฐานดี : JUBILE(กำลังซื้อฟื้น+ยอดขายคิตตี้เติบโตเด่น ต้าน 24), PM(ต้าน 14.2/14.5), PSTC (Hidden asset จากสัญญาสัมปทานท่อน้ำมัน เพิ่ม Recurring รอบใหญ่, ต้าน 0.82/0.85)
7. Investment Related : สนช.เห็นชอบหลักการร่าง พรบ EEC เบื้องต้นแล้ว คาดคืบหน้าทันปีนี้ + รมต.พาณิชย์สหรัฐ&นักธุรกิจอยู่ระหว่างเยือนไทย ก่อนนายกประยุทธ์เยือนสหรัฐฯ 2-4 ต.ค. เน้นกลุ่มนิคม(AMATA, WHA, NYT, ROJNA)
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
NYT (TP18F 7.65*): Support: 6.0/5.75 Resistant: 6.5/7.0
- Theme : Bottom Play
- Earnings Outlook : คาดกำไร 2H17F ฟื้นตัวดีขึ้นเทียบ h-h จากยอดส่งออกรถยนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และใน 1Q18F เริ่มบันทึกรายได้จากพื้นที่เช่าบนท่าเรือ 1.2 แสนตร.ม. หนุนคาดกำไรสุทธิ18F เติบโต +17.4% y-y และมี upside risk จากค่าเช่าที่สูงขึ้น 30% จากสมมติฐานเดิมจากปัจจัยบวก พรบ. EEC จะเพิ่มฐานกำไรสุทธิปี18F/19F/20F ที่ระดับ +4.3%/+5.7%/+6.4% ตามลำดับ
- Valuation : ภาพรวมตลาดที่มี sentiment ดี หนุนความน่าสนใจใน Mid-small cap โดย NYT เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมามากและเริ่มยืนได้อีกครั้ง มี Downside ต่ำ โดยซื้อขาย PER ปี 2018F เพียง 16.3x เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯที่ 29.1x + Dividend yield 18F คาดจ่าย 0.35 บาท/หุ้นหรือสูงถึง 5.5%
- Catalyst : EEC จะบวกต่อ NYT ซึ่งครอบครองพื้นที่ให้เช่าขนาดใหญ่ 75 ไร่ ผืนสุดท้าย ที่สามารถทำเป็นพื้นที่ปลอดภาษีหรือ Free zone ได้ ติดท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้ เราคาดว่า ราคาให้เช่าจริง มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการเดิมของเราราว 30% คาดมีข้อสรุปภายใน 4Q17F + ยอดส่งออกรถยนต์ส.ค. สูงสุดรอบ 14 เดือน +9.3% y-y
PSTC (TP18F 1*): Support: 0.74/0.71 Resistant: 0.80/0.85
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : แนวโน้มผลประกอบการเติบโตจาก โรงไฟฟ้าสิ้น 2Q17 ที่ COD และรับรู้รายได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว มีจำนวน 23.2 MW และจะเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส 3Q17 เพิ่ม +SPN 2 MW/ 4Q17 เพิ่ม +ARN 4 MW/ 1Q18 เพิ่ม 5.1 MW และ 2Q18 เพิ่ม +1 MW
- Valuation : ราคาหุ้นปัจจุบันเป็นจุดเข้าซื้อที่ดีและเหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดรวมปัจจุบัน โดยราคาเป้าหมายปี 2018F ที่ 1.0 บาท Upside สูง 30% มีแนวโน้มปรับประมาณการขึ้นอีกครั้ง หากมีความชัดเจนมากขึ้นในส่วนของโครงการ BIGGAS และโครงการท่อน้ำมันในช่วงถัดไป
- Catalyst : PSTC เตรียมยื่นประมูล โครงการ SPP Hybrid 300 MW จะเปิดให้ยื่นซองวันที่ 2 ต.ค.17 ในเบื้องต้น บริษัทเข้ายื่น 5 โครงการ (60-100 MW) จับมือกับพันธมิตรในพื้นที่ หากชนะการประมูล จะเป็น Upside risk ต่อมูลค่าพื้นฐาน โดยเราตั้งสมมติฐานทุกๆ 10 MW (ถือสัดส่วน 50%, ค่าไฟต่อหน่วยที่ 3.20 บาทต่อหน่วย) ที่บริษัทชนะประมูลมาได้ จะเพิ่มมูลค่าพื้นฐาน 0.176 บาทต่อหุ้น
SGP (TP18F 17.4*): Support: 19.5/19.1 Resistant: 21.0/22.0
- Theme : Refinary-related Play
- Earning outlook : ธุรกิจจำหน่าย LPG รายใหญ่ ในไทยเป็นเบอร์ 2 รองจาก ปตท. และจำหน่ายในตปท. จีน, สิงคโปร์,เวียดนาม, มาเลเซีย) คาดกำไรงวด 3Q17F จะกลับมาทำกำไรอีกครั้งจากขาดทุน 66 ลบ.ใน 2Q17 หลังราคาขาย LPG (CP price)(ใช้อ้างอิงราคาขายในตปท.) งวด 3Q17 เฉลี่ยที่ 430 เหรียญ/ตัน (ลง 1 เดือน, เพิ่ม 2 เดือน) หนุนกำไรทั้ง normal operation และ Inventory gain ขณะที่ ธุรกิจในไทยยังมั่นคงและสร้างกระแสเงินสดได้ดี ขณะที่ งวด 4Q จะเป็นช่วงฤดูกาล
- Valuation : หากงวด 4Q ราคา LPG เพิ่มตามฤดูกาลปกติ เบื้องต้น คาดกำไร 2H17F จะทำได้ใกล้เคียง 1Q17 ที่สูง 1.1 พันลบ. คิดเป็น EPS 17F 2.4 บาท (+98% y-y) เทียบเท่า PER 2017F เพียง 8 เท่า เก็งกำไรได้
- Catalyst : คาดราคาขาย LPG ทั้งเดือน ต.ค. (ใช้ราคาอ้างอิง 1 ต.ค. สำหรับขายทั้งเดือน) + 50-70 เหรียญ/ตัน mom หนุนงวด 4Q17F เป็น Peak รอบปี
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
|
ข่าวเด่น