มองแรงซื้อทำ Window dressing จะหนุนตลาด แต่ฟันด์โฟลว์ที่พลิกเป็นขายสุทธิ จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นแรงกดดันดัชนี 

  *ภาวะตลาดหุ้นไทย 
  วานนี้ดัชนี SET ปิดลบ 0.23% หรือลดลง 3.91 จุดอยู่ที่ 1,666.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.15 หมื่นลบ. ต่างชาติขายสุทธิ 2.85 พันลบ. ส่วนนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1.15 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนทั่วไปและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ เป็นฝ่ายซื้อสุทธิที่ 2.1 พันลบ. และ 1.8 พันลบ. 

  *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ
  - ดาวโจนส์บวก 40.49 จุด ขานรับแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์ต่อเนื่อง
  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 22,381.20 จุด เพิ่มขึ้น 40.49 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,510.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,453.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด
  ตลาดรับปัจจัยบวกจากแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% รวมถึงการเพิ่มเงินลดหย่อนภาษีเพื่อสงเคราะห์บุตร รวมถึงใช้ระบบจัดเก็บภาษีภายในเขตแดนกับบริษัทอเมริกันทั่วโลก เพื่อดึงดูดองค์กรธุรกิจสหรัฐให้กลับมาดำเนินงานในสหรัฐ 
  - ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.11% อยู่ที่ 51.56 ดอลลาร์/บาร์เรล 
  ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง จากแรงขายทำกำไรหลังโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐกลับมาเดินเครื่องอีกครั้ง หลังจากที่ปิดดำเนินการเนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์

  *ประเด็นที่ต้องติดตาม
  - บ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ส.ค. 
  - เงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง เช้านี้เปิดตลาดที่ 33.38 บาท/ดอลลาร์ 
  - การทำ Window Dressing ปิด NAV Q3/17 ในช่วงสัปดาห์นี้ 
  - เงินบาทอ่อนค่าเร็ว 1% ใน 3 วันทำการ เป็นบวกกับกลุ่มส่งออก 

  *มุมมองโบรกฯ เช้านี้ 
  
  บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า ภาพของ SET แนะนำให้นักลงทุนติดตามทิศทางค่าเงินอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก 3 วันที่ผ่านมา บาทอ่อนค่าอย่างมีนัยยะและค่อนข้างเร็ว ประกอบกับส่วนต่างของ bond yield 10 ปีสหรัฐและไทยที่แคบลง อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันให้นักลงทุนต่างประเทศชะลอการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
  บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แม้ว่า SET วานนี้จะปรับลงและต่างชาติขายทั้ง 3 ตลาด แต่ยังไม่มีสัญญาณลบใดๆเกิดขึ้น ดัชนีวันนี้น่าจะแกว่งออกข้างและย่ำฐานอีกระยะ ซึ่งเรามองเป็นโอกาสซื้อสะสม พัฒนาการด้านเศรษฐกิจไทยเป็นไปในเชิงบวก GDP มีโอกาสดีกว่าที่หลายฝ่ายคาด พ.ร.บ. EEC เข้าสู่สนช.แล้ว และจะมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า กำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นแบบกระจายมากขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่าชั่วคราวซึ่งเป็นบวกกับส่งออก 
  บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากแผนมาตรการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ รวมถึงแรงซื้อการทำ Window dressing ปิด Q3/17 อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Sell จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,660 - 1,675 จุด 
  บล.เคจีไอ คาด SET วันศุกร์ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนไซด์เวย์ต่อ ค่าเงินบาทน่าจะชะลอการอ่อนค่าลง หลังเมื่อวานนี้อ่อนไปชนเป้ารายเดือนที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI มองไว้ที่ 33.50-33.55/ดอลล่าร์ฯ แล้ว คาดแรงกดดันต่อฟันด์โฟลว์ไหลออกน่าจะลดลง 
  ด้านปัจจัยภายนอกเมื่อคืน สหรัฐฯ รายงาน GDP ไตรมาส 2/2560 รอบสุดท้าย +3.1% QoQ เทียบรายปี สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย แต่ค่าเงินดอลลาร์ฯ กลับเริ่มเผชิญแรงขาย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าค่าเงินดอลล่าร์ฯ รับรู้ปัจจัยบวกในสัปดาห์นี้ไปมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น i) โอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. และ ii) พัฒนาการของแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐฯ
  ด้านปัจจัยภายใน สภาพัฒน์และ ก.คลัง ประสานเสียงเมื่อวานนี้เห็นด้วยกับประมาณการ GDP ใหม่ของ กนง. ที่มอง 3.8% ปีนี้ และสองหน่วยงานดังกล่าวเตรียมปรับเพิ่มประมาณการ (เป็นไปตามมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ KGI) ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ส.ค. ซึ่งน่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ MoM และจะเป็นเครื่องชี้การเร่งตัวขึ้นของ GDP ไทยในไตรมาส 3/2560 อีกด้วย