กลยุทธ์วันนี้ >> สะสมหุ้นพื้นฐานดีเพิ่ม

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวกว้างขึ้นโดยบวกกว่า 5 จุดและไหลลงติดลบกว่า 10 จุดเพราะเป็นวันหมดอายุของ Futures Series U จึงมีแรงขายหุ้นตัวใหญ่ แต่ปิดตลาดก็ติดลบเพียง 3 จุด นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศเป็นผู้ขาย 2.8 พันลบ.และ 1.1 พันลบ. ตามลำดับ และต่างชาติยังขายฟิวเจอร์ส 2.7 พันสัญญาและขายพันธบัตร 1.3 หมื่นลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : แม้ว่า SET วานนี้จะปรับลงและต่างชาติขายทั้ง 3 ตลาด แต่ยังไม่มีสัญญาณลบใดๆเกิดขึ้น ดัชนีวันนี้น่าจะแกว่งออกข้างและย่ำฐานอีกระยะ ซึ่งเรามองเป็นโอกาสซื้อสะสม พัฒนาการด้านเศรษฐกิจไทยเป็นไปในเชิงบวก GDP มีโอกาสดีกว่าที่หลายฝ่ายคาด พ.ร.บ. EEC เข้าสู่สนช.แล้ว และจะมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า กำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นแบบกระจายมากขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่าชั่วคราวซึ่งเป็นบวกกับส่งออก  
  กลยุทธ์ : ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$590ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$294ล้าน เกาหลีใต้ US$124ล้าน และไทย US$86ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$7ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเข้าเงินดอลลาร์หลัง Fed มีท่าทีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ZIGA <<

• คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q17 จากยอดสั่งซื้อของตัวแทนที่กลับมาปกติ และอัตรากำไรที่ขยายตัวตามการปรับขึ้นราคาขายแต่ล็อคต้นทุนยาวถึงสิ้นปี เราคาดกำไร 3Q17 โต 125-150% Q-Q อยู่ที่ 45-50 ลบ.
• กำไรปีนี้แค่ทรงตัว แต่คาดปีหน้า +38% Y-Y จากงานก่อสร้างที่เร่งตัว การเพิ่มกำลังการผลิต การเพิ่มสินค้าใหม่ที่เน้นเจาะ EEC และการรุกตลาดสร้างร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน  
• PE ปีนี้ 15 เท่า และจะเหลือเพียง 11 เท่าในปีหน้า ต่ำกว่ากลุ่มเหล็กและวัสดุก่อสร้างที่ 18 เท่า ส่วน PEG ก็ต่ำเพียง 0.5 เท่า ทั้งที่ดีกว่ากลุ่มทุกมิติไม่ว่าฐานะการเงิน ความสามารถทำกำไร และการเติบโตสูงจากการเป็นสินค้าทดแทน แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.90 บาท

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) รัฐอาจกระตุ้นเพิ่มหากการบริโภค พ.ย. ยังไม่ฟื้น ล่าสุด สศค. ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัวดีต่อเนื่อง และ GDP อาจทำได้ 3.8% ตามที่ ธปท. คาดไว้เพราะการส่งออกขยายตัวสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยรายได้เกษตรกรที่ยังต่ำและการบริโภคที่แท้จริงยังชะลอตัว จึงเป็นไปได้ที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว เกษตรและอาหาร   
  (0) เงินบาทอ่อนค่าเร็ว 1% ใน 3 วันทำการ จากดอลล่าร์สหรัฐฯที่แข็งค่าตามคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปของเฟด ที่เลื่อนเป็น ธ.ค. 17 จากกลางปี 2018 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดภาษีของทรัมป์ เป็นบวกกับกลุ่มส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์ (HANA, KCE) เกษตรอาหาร (GFPT, CPF, TFG) ยานยนต์ (PCSGH)
  (0) กกพ.เลื่อนกำหนดการโครงการ SPP Hybrid 300 MW ให้ยื่นขอขายไฟฟ้า 16-20 ต.ค.จากเดิมอาทิตย์หน้า และประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิค เป็น 24 พ.ย. จากเดิม 9 พ.ย.แต่คงการเปิดซองข้อเสนอด้านราคาและประกาศชื่อผู้ได้คัดเลือกในเดือนธ.ค.หุ้นที่คาดร่วมประมูล เช่น BR KSL BCPG GUNKUL PSTC รวมทั้ง TPCH ซึ่งมีโอกาสได้บางส่วน จากความคุ้นเคยด้านไฟฟ้าชีวมวล คงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 21 บาท (ไม่รวมโครงการนี้)
  (+) ITEL เซ็นต์สัญญาเน็ตชายขอบเฟส 1 พื้นที่ภาคกลางและใต้     มูลค่า 1.8 พันลบ. อย่างเป็นทางการ หนุน Backlog เพิ่มเป็น 3.1 พันลบ. โดยคาดว่าจะเริ่มประมูลเฟส 2 ใน 1Q18 เพื่อให้ประเทศไทยได้ใช้บอร์ดแบนด์ 100% สิ้นปี 2018 ตามนโยบายของกระทรวงดีอี ถ้าได้งานเพิ่มจะเป็น Upside เพิ่มเติมต่อประมาณการเรา ที่คาดกำไรสุทธิปีนี้ +96% Y-Y และ +56% Y-Y ในปีหน้า ส่วนกำไร 3Q17 คาด +28% Q-Q อยู่ที่ 32 ลบ. ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีนี้ 7.20 บาท   
  (0) SYMC อยู่ในช่วงทำ Tender offer จากกลุ่มไทม์ดอทคอมที่ 35%-37% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในราคา 12.20 บาท ก่อนจะเพิ่มทุนแบบ RO ให้กับผู้ถือหุ้นทุกกลุ่ม 1:1 ราคา 8.80 บาท ผลบวกต่อ Synergy ในธุรกิจ IPLC หรือ Private Network ยังต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีคือ Dilution จากการเพิ่มทุน 23-24% รวมถึงค่าเสื่อมราคาของโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ (MCT) ที่เริ่มบันทึกใน 2Q17 ซึ่งทำให้กำไรปีนี้อาจทำได้เพียงทรงตัวหรือฟื้นเล็กน้อย Y-Y เรายังแนะนำขาย SYMC และให้เปลี่ยนไปลงทุนใน ITEL ที่มีศักยภาพการแข่งขันและการเติบโตที่สูงกว่าแทน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• (+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกจากแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์ที่มีความคืบหน้ามากขึ้น
• (+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับบวกจากความคาดหวังมาตราภาษีของทรัมป์ และ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
• (0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นถูกดดันจากค่าเงินเยนอ่อนค่า
• (0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าโดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.33-33.37 บาท/ดอลลาร์
• (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ปิดลบ 0.58 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 51.56 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงขายทำกำไร ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่เฝ้าจับตาสถานการณ์การแยกตัวของชาวเคิร์ด
• ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 0.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,288.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า