หุ้นแนะนำพิเศษ
TPCH (ราคาปิด 16.9 ซื้อ ราคาเหมาะสม 21.74)
- คาดผลประกอบการ 2H60 อยู่ที่ราว 144 ล้านบาทเติบโต 44% จาก 1H60 เนื่องจากมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโรงไฟฟ้า PGP และ SGP กำลังการผลิตแห่งละ 9.2 MW ทำให้มีกำลังการผลิตรวมแตะ 52.8 MW และมีโอกาสกลับรายการด้อยค่าในตั๋วแลกเงิน 20 ล้านบาทใน 4Q60 ซึ่งจะเป็น upside ต่อประมาณการเพิ่มเติม นอกจากนี้บริษัทเตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้ารูปแบบ SPP-Hybrid Firm กำลังการผลิตรวม 300 MW ในเดือนต.ค.นี้ และคาดว่าจะประกาศผลการประมูลเดือนธ.ค.
- ไฟเขียวจ้าง TPOLY ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 4 แห่ง “ทีพีซีเอช 1, 2, 5-ปัตตานี กรีน” กำลังการผลิตรวม 46 MW มูลค่าก่อสร้างรวม 3,172.77 ล้านบาท พร้อมย้ำเป้าหมายปี 63 กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลแตะ 200 MW (ที่มาข่าวหุ้น) ซึ่งเราได้รวมในประมาณการปี 61-62 แล้ว
ส่องหุ้น
GJS แนวรับ 0.45 บาท แนวต้าน 0.48-0.50 บาท
ระดับราคามีความพยายามดีดกลับขึ้นมายืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 , 10 และ 75 วันได้ หลังจากมีการขายทำกำไรกลับลงมาติดต่อกันกว่าสัปดาห์ ในขณะที่ MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์แล้ว และเริ่มมีวอลุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 0.45 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ จุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 0.48-0.50 บาทต่อไป
ZIGA แนวรับ 6.95 บาท แนวต้าน 7.25-7.30 , 7.55 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาได้จากแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 25 วันและดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้อีกด้วย โดยมีวอลุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.95 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นขึ้นต่อได้แถวๆ 7.25-7.30 บาทและ 7.55 บาทได้ต่อไป
PTG แนวรับ 22.70-22.60 บาท แนวต้าน 23.40-23.80 บาท
ระดับราคามีความพยายามดีดกลับขึ้นมายืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ หลังจากมีการขายทำกำไรกลับลงมาติดต่อกันกว่าสัปดาห์ ในขณะที่ MACD เริ่มประคองตัวไม่ลงต่อ ในขณะที่วอลุ่มเพิ่มขึ้นพอสมควร หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 22.70-22.60 บาทอีก ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ จุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 23.40 บาท ก่อนทำ New high แถวๆ 23.80 บาทต่อไป
Market View : Selective Buy
Stock of the town : TTCL MACO
หุ้นแนะนำพิเศษ : TPCH
หุ้นมีข่าว : J ECF HMPRO ANAN
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวขึ้นจากกระแสการทำ Window Dressing ปิด NAV Q3/17 ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม COMM PROP และ FIN หนุนให้ SET ปิดที่ 1,673.16 จุด (+6.80 จุด) Vol. 5.7 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -301 ลบ. TFEX Net –1,909 สัญญา ตราสารหนี้ -3,415 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ธปท.รายงานเศรษฐกิจไทยเดือนส.ค.60 ขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกและบริการขยายตัวดี การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำปี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนส.ค. +15.8% การนำเข้า +14.3%
+ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไทยส.ค.60 +3.74% yoy ส่งผล 8 เดือน +1%
+ PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนก.ย.ขึ้นแตะ 52.40 (จาก 51.70 ในเดือนส.ค.) ส่วน PMI ภาคบริการขยับขึ้นแตะ 55.40 (จาก 53.40 ในเดือนส.ค.)
+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้น จากแรงซื้อกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มการเงินหลัง FED เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงมีรายงานว่าปธน. ทรัมป์ ได้หารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายเควิน วอร์ช เข้ารับตำแหน่งประธานเฟด
+ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากแรงซื้อกลุ่มธนาคารหลังคาดการณ์ว่า FED ECB และ BoE จะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินซึ่งจะทำให้ธนาคารมีกำไรมากขึ้นจากการปล่อยกู้
- น้ำมันทรงตัวล่าสุด 51.6 US/Barrel เพื่อติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในตะวันออกกลาง หลังชาวเคิร์ดลงประชามติแยกตัวเป็นอิสระจากอิรัก
+/- เดือนก.ย.Foreign เป็น Net Buy ราว 7 พันลบ. ส่วน TFEX เป็น Net Short ราว 6.8 หมื่นสัญญา และเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 33.3 Bath/USD.
** 2 – 6 ต.ค. ตลาดหุ้นจีนหยุดเนื่องในวันชาติ
** เข้าสู่ช่วง Preview งบ Q3/17 ของกลุ่มธนาคาร
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะการส่งออก รวมถึงแรงซื้อหุ้นรายตัวดักงบ Q3/17 อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอตัว จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะขึ้นในกรอบจำกัดที่แนวต้าน 1,680 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- กลุ่มส่งออก อิเล็คทรนิคส์ (KCE HANA HTECH ) อาหาร(CPF TU) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง
- AMATA WHA ข่าวร่างกฎหมาย EEC จะนำเข้าที่ประชุมสนช.
- IVL EPG TU ได้ประโยชน์จากแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
หุ้นมีข่าว
- J (ราคาปิด 2.66 บาท) จากที่ประชุม ธุรกิจเดิมของบริษัทยังสร้างกระแสเงิดสดได้ดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น IT Junction หรือ The JAS เนื่องจากมี Occupancy rate ที่เข้าใกล้ 100% ในหลายแห่ง (อาทิ The JAS ศรีนครินทร์) ส่วนธุรกิจ Property ใหม่ภายใต้แบรนด์ "Newera" ซึ่งเป็น โครงการคอนโดฯมูลค่า 500 ล้านบาท ผู้บริหารตั้งเป้า Presales ภายในปีสิ้น 60 ที่ 70% โดยคาดว่าจะสามารถโอนได้ภายในงวด 4Q61 ขณะที่ ธุรกิจกาแฟภายใต้แบรนด์ "Casa Lapin" ก็มีการตั้งเป้าขยายสาขาอีก 3 สาขาในปีนี้
- การเตรียม Presales นับจากนี้ คาดว่าจะส่งผลให้ J มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขายสูงขึ้นตั้งแต่ช่วง 2H60 เป็นต้นไป กอปรกับการขยายสาขา ของทั้ง IT Junction ในปีนี้ยังทำแบบค่อยเป็นค่อยไปที่ 1 สาขา จึงน่าจะคาดหวังการกลับมาเติบโตของกำไรได้ค่อนข้างยากในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในระยะ 2 - 3 ปี หากคอนโดโครงการแรกดังกล่าว ประสบความสำเร็จ จะเป็น Sign สำคัญต่อ J ที่จะเริ่มเพิ่มสัดส่วนของการลงทุนในธุรกิจ Property มากขึ้น โดยรวมในระยะสั้นจึงแนะนำให้ติดตาม Presales อย่างใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ECF (ราคาปิด 5.06 ราคาเหมาะสม 9.2) ซ่อนสตอรี่เพียบ ราคาหุ้นเด้งรับพุ่งไม่หยุดจาก 6.70 บาท วิ่งไต่ระดับไปแตะจุดสูงสุดที่ 9.20 บาท เพิ่มขึ้นถึง 2.50 บาท หรือ 37.31% แม้ติดบ่วงแคชบาลานซ์ ฟากผู้บริหารมั่นใจปัจจัยพื้นฐานดี เตรียมชงบอร์ดอนุมัติแผนลงทุน 3 ปี ในวันที่ 3 ต.ค.นี้แย้มก่อนหน้านี้กองทุนไทย-ต่างประเทศ ตบเท้าเข้าพบเพียบ (ที่มาทันหุ้น)
- ความเห็น ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในเดือนที่ผ่านมาตอบรับการข้นเครื่องหมาย XW เพื่อ Warrant 2 และ Warrant 3 ส่งผลให้เมื่อขึ้นเครื่องหมาย XW แล้วอาจมีแรงขายทำกำไรได้ ดังนั้นควรเล่นเก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุน
- HMPRO (ราคาปิด 12.20 Bloomberg Consensus 11.57) ยิ้มรับยอดขายสาขามาเลเซียกระแสตอบรับดีเกินคาด วางหมากคลอดสาขาใหม่เพิ่ม 2 แห่งปลายปี 60 นี้ ปักหมุดขยายอาณาจักร CLMV ต่อ คาดผลงานครึ่งหลังปีฉายแววเด่น มั่นใจผลงานสิ้นปีโต 8% หลังเห็นสัญญาณกำลังซื้อฟื้นตัว หนุนลูกค้าต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัย มองน้ำท่วมกระทบระยะสั้น เชื่อลูกค้าปรับตัวได้เร็ว (ที่มา ทันหุ้น)
- ความเห็น แผนการเปิดเพิ่มสาขาในมาเลย์เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน ผลการดำเนินงานยังมีโอกาสเติบโตจากการควบคุมคชจ.และการปรับกลยุทธ์สู่ไลน์สินค้าใหม่ การขายสินค้าออนไลน์ กำไรมีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสใน Q4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นเป็นประจำทุกปี Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 4,645 ลบ. +13% 1H60 มีกำไรสุทธิ 2,177 ลบ. +10.5%YoY
- ANAN (ราคาปิด 5.65 Bloomberg Consensus 6.01)สู่โหมดทะยานไตรมาส 4 จ่อโอนแหลก 6 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท ชี้ยอดโอนเป็น 65% ของทั้งปี ชี้ปี 60 เปิดโครงการเพิ่มเท่าตัว มูลค่าแตะ 4.2 หมื่นล้านบาท เตรียมขายหุ้นกู้ 2 พันล้านบาท ต.ค.นี้ ลดต้นทุนทางการเงินลงอีก 0.45% (ที่มา ทันหุ้น)
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อ backlog ที่แข็งแกร่งถึง 4.97 หมื่นลบ.ทำให้ผลการดำเนินงานมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง Bloomberg คาดกำไรปี 60 ราว 1,931 ลบ. +29% ทั้งนี้แผนการโอน 1H60 เทียบกับ 2H60 คิดเป็น 18% : 82% โดยจะโอนเยอะในช่วง Q4 ทำให้ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสด้วย
- (+) BCPG (ราคาปิด 19.30 Bloomberg Consensus 15.88) เซ็นสัญญากับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกร่วมผลิตโซลาร์ ฟาร์ม จำนวน 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 9 เมกะวัตต์ คาดบุ๊ครายได้ขายไฟฟ้าปี 61 แย้มอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรต่างชาติซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนผ่านทางอินเทอร์เน็ต (ที่มาข่าวหุ้น)
- CHO คาดติดตั้งระบบ E-Ticket รถเมล์ขสมก.ครบ 2,600 คันใน Q1/61 เร็วกว่ากำหนด, เริ่มรับรู้รายได้ Q2/61
- EARTH ขอเลื่อนส่งงบการเงินงวด Q2/60 และ 6 เดือนอีกรอบ จากกำหนดเดิม 29 ก.ย.
- TOA เคาะราคาขายไอพีโอ 24 บาทต่อหุ้น เผยผลตอบแทนรับนักลงทุนทั้งรายย่อย-สถาบันล้นหลามจากความเชื่อมั่นศักยภาพธุรกิจ ผู้บริหาร "จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ" ประกาศเดินหน้าธุรกิจในต่างประเทศ ตั้งโรงงานผลิตที่อินโดนีเซีย เมียนมาและกัมพูชา คาดกดปุ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ปี 2561 (ที่มาทันหุ้น)
ข่าวเด่น