ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สรุปแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ เก็งกำไรงบไตรมาส 3/60 แต่ฟันด์โฟลว์ที่ชะลอ บวกกับเงินบาทอ่อนค่าจะกดดัน


 เก็งกำไรงบไตรมาส 3/60 แต่ฟันด์โฟลว์ที่ชพะลอ บวกกับเงินบาทอ่อนค่าจะกดดัน SET แนวต้านสำคัญ 1680 จุด แนวรับ 1650 จุด 


  *ภาวะตลาดหุ้นไทย

  ตลาดหุ้นไทยศุกร์ที่ผ่านมาปิด +0.41% เพิ่มขึ้น 6.80 จุดมาอยู่ที่ 1,673.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.70 หมื่นลบ. โดยต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องแต่ลดลงจากหลักพันลบ. เหลือขายสุทธิ 301 ลบ. รวมถึงพอร์ตโบรกฯ และรายย่อยก็เป็นฝ่ายขายสุทธิ 273 ลบ. และ1.2 พันลบ.ตามลำ
ดับ ขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1.84 พันลบ. 
  หุ้นที่ดันดัชนีมากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ HMPRO , SCC, CPALL , CPF และ ESSO โดย ESSO มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดอันดับ 1 ที่ 2.46 พันลบ. ราคาแตะจุดสูงสุดเดิมที่ 13.90 บาทพร้อมกับติดชาร์ตหุ้นที่มีเปอร์เซ็นต์การปรับเพิ่มขึ้นมากสุดอันดับ 3 (ปิด+10.66%)หลังโบรกฯ คาดกำไรไตรมาส 3/60 จะอออกมาดี และมีกำไรสต็อกน้ำมัน 
ขณะที่ CPALL ยังคงเดินหน้าสร้าง All Time high ที่ 67.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงสุดอันดับ   3 ที่ 2.10 พันลบ. ด้านหุ้น AJA ศุกร์ที่ผ่านมาร่วงติดฟลอร์ทันทีที่ตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องหมาย SP 

 *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ


  - ดาวโจนส์บวก 23.89 จุด ตามกลุ่มการเงินรับข่าวเฟดจ่อขึ้นดบ.อีก 1 ครั้งในปีนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา (29 ก.ย.60) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 22,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 23.89 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,519.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,495.96 จุด เพิ่มขึ้น 42.51 จุด หรือ +0.66%
  - ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 29 ก.ย. 60 ปิดที่ระดับ 51.67 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 11 เซ็นต์ หรือ 0.21%

 *มุมมองโบรกฯ เช้านี้

  นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส คาดสัปดาห์นี้หุ้นไทยมีโอกาสขยับบวกต่อหลังปรับฐานในช่วงก่อนหน้า เพียงแต่ในทางเทคนิคต้องรอให้ผ่านในแนวต้านสำคัญ 1,680 จุด ให้ได้ก่อน และรอกระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาซื้อรอบใหม่ แม้เฟดจ่อขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ แต่เชื่อว่าด้วยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างแข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติในท้ายที่สุด
  บล.โกลเบล็ก ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะการส่งออก รวมถึงแรงซื้อหุ้นรายตัวดักงบ Q3/17 อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่ชะลอตัว จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะขึ้นในกรอบจำกัดที่แนวต้าน 1,680 จุด 
  บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways และยังอยู่ในช่วงของการย่ำฐานต่ออีกสักระยะโดยขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น และตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปิดทำการวันนี้ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเป็นโอกาสดีในการซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี และคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่จะเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ การบริโภคในประเทศที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทระยะหลังที่อ่อนค่าซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก

  บล.เคทีบี ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้คาดดัชนีฯ ยังเป็นช่วงของการปรับฐาน และ sideway จนกว่าแรงขายจะชะลอลง กรอบการเคลื่อนไหว 1650-1680 จุด การปรับพอร์ตของนักลงทุนรับ Fed ปรับนโยบายการเงิน และสถานการณ์เกาหลีเหนือ เป็นตัวแปรสำคัญของต่างประเทศ ขณะที่ของไทยเอง จะมีการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q-17 ซึ่งจะทำให้มีการเข้ามาลงทุนในหุ้นที่ถูกคาดว่ากำไรจะดีกันมากขึ้น 


บันทึกโดย : วันที่ : 02 ต.ค. 2560 เวลา : 10:45:55

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:58 am