ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน สะสม AAV : ราคาปิด 6.55 บาท เป้าหมายระยะสั้น อิงเทคนิคที่ 6.75 บาท (02/10/60)


กลยุทธ์วันนี้
  Selective Buy

Smart Pick

1. สะสม AAV : ราคาปิด 6.55 บาท เป้าหมายระยะสั้น อิงเทคนิคที่ 6.75 บาท
  a) คาดผลประกอบการ 3Q60 จะฟื้นตัว QoQ จาก Loading Factor ที่ทรงตัวในระดับสูงราว 86% และราคาตัวเฉลี่ยปรับตัวขึ้น Qoq สะท้อนให้เห็นว่ากำไรปกติได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q60 ที่ผ่านมา
  b) มี Catalyst จากการเข้าสู่ Golden Week ของจีนระหว่างวันที่ 1-8 ต.ค. ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อ AAV เนื่องจากมีเส้นทางบินระหว่างไทย-จีนหลายเส้นทาง และเป็นผู้นำตลาด Low Cost Airline ในภูมิภาค
  c) ผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการของ ICAO ที่จะประกาศช่วงกลางเดือน ต.ค. คาดว่าไทยจะได้รับการปลดล็อกธงแดง และส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มสายการบิน เนื่องจากจะกลับมาขยายเส้นทางใหม่ได้อีกครั้งและช่วยปลดล็อก Overhang ที่เรื้อรังมากว่า 2 ปี

2. สะสม SCB : ราคาปิด 153.00 บาท ราคาเหมาะสม 170.00 บาท
  a) คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมา กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2560 ขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมที่ 3.5%
  b) จะเข้าสู่การรายงานผลประกอบการ 3Q60 ในช่วงกลางเดือน ต.ค. ประเมินเบื้องต้น คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตทั้ง YoY และ QoQ
  c) ความเสี่ยงในการตั้งสำรองหนี้ของ PACE เริ่มลดลง หลังคาดว่าจะได้พันธมิตรคือกลุ่มเซ็นทรัลที่เข้าซื้อสิทธิเข้าร่วมบริหาร Dean and Deluca (ไม่รวมสหรัฐฯ) มูลค่าราว 3.3 พันล้านบาท ส่งผลให้กระแสเงินสดของ PACE ดีขึ้น และเป็นบวกโดยตรงต่อ SCB ที่เป็นเจ้าหนี้หลัก

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
  วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.8 จุด ปิดที่ 1673.16 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นในกลุ่มค้าปลีกอย่าง HMPRO +7.96%, MBK +6.25%, CPN +1.63%, MAKRO +1.46% และ CPALL +1.14% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยราว 301 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 1.8 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.9 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 7.4 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิขายสุทธิราว 3.4 พันล้านบาท นับเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันราว 2.6 หมื่นล้านบาท

กลยุทธ์วันนี้
  เริ่มต้นวันทาการแรกของไตรมาส 4 ของปี คาด SET INDEX แกว่งตัวกรอบ 1665-1680 จุด เรามอง Downside ของ SET INDEX ค่อนข้างจากัด จากแรงเก็งกำไรต่อผลการดาเนินงาน 3Q60 ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เริ่มด้วยกลุ่มธนาคาร
  สาหรับทิศทางค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มทรงตัวมากขึ้นในเช้าวันนี้ หลังอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเชื่อว่าค่าเงินบาทจะแกว่งแคบลงระหว่าง 33.30 – 33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้กระแสเงินทุนต่างชาติทรงตัวได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในสัปดาห์นี้ ต่อทิศทางนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลต่อแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
  เทศกาลวันหยุดยาวของชาวจีน หรือ Golden Week ในช่วง 1-8 ต.ค. จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวทั้งโรงแรม ท่าอากาศยาน และสายการบิน เพราะนักท่องเที่ยวจีน มีโอกาสหลั่งไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว จากข้อมูลล่าสุด พบว่า ยอด Advance booking ของทุกสายการบินเพิ่มขึ้นกว่า 30% YoY กลยุทธ์หลักของเราช่วงนี้ คือ การเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q60 (Earnings Plays) ทั้งในกลุ่ม Big Cap (ADVANC/ PTT/ SCB) และ SMID Cap (AAV/ IRPC/ ERW/ JWD/ MCS/ WHAUP)

ปัจจัยสาคัญวันนี้

  • เงินเฟ้อ EU เดือน ก.ย. ขยายตัว 1.1%YoY ต่ากว่าที่ตลาดคาดที่ 1.2% YoY
  • GDP อังกฤษ 2Q60 ขยายตัว 1.5%YoY ต่ากว่าที่ตลาดคาดที่ 1.7%YoY
  • จีนรายงาน PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย. อยู่ที่ 52.4 ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 51.6
  • Trump หารือกับประธาน Fed และอดีตประธาน Fed เพื่อหาแนวทางในการคัดเลือกประธาน Fed คนต่อไป เนื่องจาก Yellen หมดวาระในเดือน ก.พ. 61
  • ติดตามการรายงานเงินเฟ้อไทยเดือน ก.ย. ตลาดคาดขยายตัว 0.5% YoY, PMI สหรัฐฯ และ EU วันที่ 2 ต.ค.
  • ติดตามการรายงานการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯของ ADP และ การกล่าวปาฐกถาของ Janet Yellen วันที่ 4 ต.ค.
  •  ติดตามการรายงานภาวะการจ้างงานสหรัฐฯ วันที่ 6 ต.ค.

 


บันทึกโดย : วันที่ : 02 ต.ค. 2560 เวลา : 11:23:33

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:13 am