ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมัน 2-6 ต.ค.60 ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดจะลดลงเล็กน้อย


แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (2 – 6 .. 60) 
  
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดจะลดลงเล็กน้อย หลังราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และการกลับมาดำเนินการอีกครั้งของผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ Harvey นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น จากปริมาณการผลิตและการนำเข้าน้ำมันดิบทื่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังต้องจับตาความต้องการใช้น้ำมันของโลกในช่วงการปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลของโรงกลั่น และสถานการณ์ความตึงเครียดที่ประเทศอิรัก ที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาน้ำมันดิบในอนาคต

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
   
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันคุ้มทุนที่จะเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบ โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในเดือนต.. 60 ปรับเพิ่มขึ้นราว 79,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับในเดือนก.. ที่ผ่านมา แตะระดับ 6.083 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจากการกลับมาดำเนินการอีกครั้งของผู้ผลิตในพื่นที่ชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก หลังผ่านช่วงการพัดถล่มของพายุ Harvey 
   
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น จากปริมาณการผลิตและการนำเข้าน้ำมันดิบทื่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการกลั่นทรงตัว หลังโรงกลั่นส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ Harvey กลับมาดำเนินการเต็มกำลังตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ล่าสุด EIA รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 .. 60 ปรับลดลงราว 1.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 471 ล้านบาร์เรล อันเป็นผลมาจากโรงกลั่นกลับมาเพิ่มอัตราการกลั่นอีกครั้ง หลังผ่านช่วงการพัดถล่มของพายุ Harvey
   
ติดตามความต้องการใช้น้ำมันของโลกในช่วงการปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลของโรงกลั่นในเดือนต.. ซึ่งอาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบเพื่อไปกลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปี 2560 จะสูงกว่าในปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตหลักๆ มาจากประเทศกำลังพัฒนาอย่างจีน และอินเดีย นอกจากนี้คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบจะเติบโตขึ้นเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยุโรป หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว 
   
จับตาสถานการณ์ความตึงเครียดที่ประเทศอิรัก หลังรัฐบาลท้องถิ่นในภูมิภาคเคอร์ดิสถาน (KRG) เขตกึ่งปกครองตนเองทางเหนือของอิรัก จัดการลงประชามติเรื่องการแยกตัวเป็นเอกราชจากอิรักในวันที่ 25 .. ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าประชามติครั้งนี้จะยังไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย แต่ก็สร้างความไม่พอใจให้กับนานาประเทศ รวมถึงรัฐบาลอิรัก และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ตุรกี และอิหร่าน ซึ่งเกรงว่าการกระทำครั้งนี้จะทำให้ชาวเคิร์ดในประเทศอื่นในตะวันออกกลางกระทำตาม และล่าสุดนาย Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีตุรกี ขู่จะปิดท่อขนส่งน้ำมันดิบ กำลังการขนส่ง 500,000-600,000 บาร์เรลต่อวัน ที่ลำเลียงน้ำมันดิบจากทางตอนเหนือของอิรักที่ถูกควบคุมโดย KRG ไปยังท่าเรือ Ceyhan ของตุรกี ซึ่งอาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบตึงตัวมากขึ้น 
   
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ อัตราการว่างงานยูโรโซน ยอดค้าปลีกยูโรโซน และ ดัชนีภาคการผลิตและดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (25 – 29 .. 60)
  
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 1.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 51.67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 0.68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 57.54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังเกิดสถานการณ์ความไม่แน่นอนในเคอร์ดิสถานอิรัก ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเซทของประเทศอิหร่านที่มีแนวโน้มปรับลดลง หลังความต้องการใช้น้ำมันดิบภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับ การหยุดการขุดเจาะน้ำมันดิบที่แท่น South Pars เป็นเวลา 1-2 เดือน เพื่อแก้ปัญหาทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายของนักลงทุนเพื่อทำกำไร หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวมาอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้น

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 ต.ค. 2560 เวลา : 18:23:35

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:46 am