“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Sideway – Sideway Up” แนวต้าน 1697/1703จุด แนวรับ 1679-1676จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นเติบโตเด่น สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง หลังอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้นมากกว่าคาดที่ 0.86% กระตุ้น Fund Flows ไหลเข้าไทยเด่นเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม TIPs หนุน SET แกว่งขึ้น แต่ระมัดระวังความผันผวนบริเวณแนวต้านจิตวิทยาที่ 1700จุด สำหรับวันนี้แนะนำ “Selective Play” : KBANK, BDMS, NYT
Nomura : Key Factors
- (+) US Econ: ISM Manufacturing เดือนก.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ 60.8 ทำจุดสูงสุดในรอบ 13 ปี
- (+) EU Econ: Manufacturing PMI เดือนสค. เพิ่มขึ้นสู่ 58.1 ทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี
- (+) JP Econ: ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ปี
- (+) TH Econ: เงินเฟ้อกย.ปรับตัวขึ้นสู่ 0.86% ดีกว่าคาดที่ 0.5% กระตุ้น Flows ไหลเข้าเด่น
- (*) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น +2859ลบ., Short Future -24079สัญญา,ขายBond -890ลบ.
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -2.11% สู่ $50.58/bbl / BRT -2.47% สู่ $56.12/bbl
- (-) Ex Factor: เหตุกราดยิงใน Las Vegas มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์
- Nomura Daily Top Picks: KBANK, BDMS, NYT
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway – Sideway Up” ในกรอบแนวต้าน 1697/1703จุด แนวรับ 1679-1676จุด เศรษฐกิจโลกแสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ นำโดย ISM Manufacturing เดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ 60.8 ดีกว่าคาดที่ 58.1 ทำจุดสูงสุดในรอบ 13 ปี ผสานดัชนี Manufacturing PMI เดือนกย.ของยูโรโซน เพิ่มขึ้นสู่ 58.1 ทำจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่น ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (Tankan) รายงานออกมาทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ปี บ่งชี้ชัดว่าเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเติบโตเด่น สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดจากอัตราเงินเฟ้อเดือนกย.ของไทย ที่ปรับตัวขึ้นสู่ 0.86% ดีกว่าคาดที่ 0.50% เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน กระตุ้น Fund Flows ไหลเข้าไทยวานนี้กว่า 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม TIPs เป็นปัจจัยหนุนตลาดแกว่งตัวขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ดี ระมัดระวังความผันผวนบริเวณแนวต้านจิตวิทยาที่ 1700 จุด อาจมีแรงขายทำกำไรได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม 1)ถ้อยแถลงของนางเยลเลน 4ต.ค.นี้ อาจส่งสัญญาณต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม 2) รายงานการประชุม ECB 5ต.ค. นี้
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : 6 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Selective Play” เป็นหลัก
1. Economic recovery : สศก. คาด Farm Income ในปี 2560-61 เพิ่ม + สคค. ปรับเพิ่ม GDP growth 2017F จาก 3.5% เป็น 3.8% + สมาคมธนาคารไทยเตรียมปรับเพิ่มเป้าสินเชื่อแบงก์จากเดิมคาด +3.5% : เน้นค้าปลีก ROBINS, CPALL, BJC, HMPRO และธนาคาร (KBANK, BBL, TISCO, TMB)
2. Tax reform : ลดภาษีนิติบุคคลสหรัฐ คาดใช้ได้เร็วสุดต้นปี 2018F +IVL
3. Tourism & Season Change Play : วันหยุดยาวจีน (1-8 ต.ค.) นักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก และจะเข้าสู่ High season 2H + อากาศสู่ช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝนเป็นหนาว โอกาสเป็นไข้สูง เน้น Laggard BDMS, MINT หลัง กลุ่มนำ ERW, CENTEL, BH ขึ้นนำไปแล้ว
4. Auto Play : ยอดส่งออกรถยนต์เดือนส.ค.17 สูงสุดในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 102.9 แสนคัน เพิ่มขึ้น +9.3% : NYT(ต้าน6.5/6.8)
5. Small Cap ที่พื้นฐานดี : FN (Model ธุรกิจแข็ง + เทคนิคสวย) JUBILE(กำลังซื้อฟื้น+ยอดขายคิตตี้เติบโตเด่น ต้าน 24), PM(ต้าน 14.2/14.5), PSTC (Hidden asset จากสัญญาสัมปทานท่อน้ำมัน เพิ่ม Recurring รอบใหญ่, ต้าน 0.82/0.85)
6. Investment Related : สนช.เห็นชอบหลักการร่าง พรบ EEC เบื้องต้นแล้ว คาดคืบหน้าทันปีนี้ + นายกประยุทธ์เยือนสหรัฐฯ 2-4 ต.ค. เน้นกลุ่มนิคม(AMATA, WHA, NYT, ROJNA)
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
KBANK (TP18F 240*): Support: 205/200 Resistant: 211/216
- Theme : Laggard Play
- Earning outlook : คาดกำไรใน 2H17 แม้ยังไม่โดดเด่นนัก โดย 3Q17F คาดกำไร 9.5 พันลบ. (-13% y-y, +5% q-q) หลักๆ จากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น แต่ด้านรายได้ยังขยายตัวได้ แต่กำไรปี 2018F จะกลับมาฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มฯถึง 29% y-y จากทั้งยอดสินเชื่อขยายตัวและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และเป็นโอกาสต่อผลตอบแทนของสินเชื่อและ NIM ที่จะดีขึ้น
- Valuation : ยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ ยัง under own ขณะที่ ตัวเลข NPL ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล มองเป็นอีกกลุ่มที่จะนำตลาดได้ในช่วงที่เหลือของปี โดย KBANK จะเป็นผู้นำกลุ่มฯ ที่มีแนวโน้มกำไรปีหน้าเด่น โดยมี PBV ปี 2018F ต่ำเพียง 1.33x (Mean 1.69x)
- Catalyst : คาดตลาดจะเริ่มมองไปที่ผลประกอบการปีหน้า ซึ่ง KBANK จะโดดเด่นสุดในกลุ่มฯ
BDMS (TP18F 23.2*): Support: 20.2/19.6 Resistant: 21.1/21.5
- Theme : Season Change Play
- Earnings Outlook : ยังมีความสามารถในการแข่งขันระดับสูง จากชื่อเสียงดึงดูดทั้งลูกค้าระดับบนและแพทย์มือดี รวมถึง ได้ประโยชน์เรื่อง Economy of scale เป้าหมายจำนวนโรงพยาบาล 50 แห่งใน 3 ปี เทียบปัจจุบัน 45 แห่ง พร้อมๆกับ การเริ่มขยายเชิงลึก ไปสู่ศุนย์เฉพาะทาง, กลุ่ม Wellness (ป้องกันก่อนเกิดโรค) รับ Aging society หนุนการเติบโตระยะยาว สำหรับ กำไรระยะสั้น คาดเป็นจุด peak ที่ 2.2 พันลบ. (+1% y-y, +38% q-q) จากฝนมาไว และผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ลดความกังวลของตลาดก่อนหน้านี้
- Valuation : ยังเป็น Laggard ที่น่าสนใจและดูปลอดภัยในภาวะตลาดรวมที่ปรับขึ้นมาก โดยมี PER 18F ที่ 40 เท่า ยังใกล้เคียงกลุ่มฯ ต่างจากอดีตที่ซื้อขายมี Premium กว่ากลุ่มฯ
- Catalyst : คาดกำไรพีค 3Q17F + เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนจากฤดุฝนเป็นหนาว เจ็บป่วยง่าย + จำนวนผู้ป่วยตะวันออกกลางเดือนล่าสุดส.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มถึง 46% y-y เร่งตัวขึ้นจากก.ค. ที่เพิ่ม 5% y-y ช่วยลดความกังวลของตลาดลง ซึ่ง BDMS มีสัดส่วนผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง 3.8%
NYT (TP18F 7.65*): Support: 6.0/5.8 Resistant: 6.5/6.75
- Theme : Bottom Play
- Earnings Outlook : คาดกำไร 2H17F ฟื้นตัวดีขึ้นเทียบ h-h จากยอดส่งออกรถยนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และใน 1Q18F เริ่มบันทึกรายได้จากพื้นที่เช่าบนท่าเรือ 1.2 แสนตร.ม. หนุนคาดกำไรสุทธิ18F เติบโต +17.4% y-y และมี upside risk จาก Hidden assets 75 ไร่ ในพื้นที่ EEC หนุนค่าเช่าสูงขึ้นราว 30% จากสมมติฐานเดิม จะเพิ่มฐานกำไรสุทธิปี18F/19F/20F ที่ระดับ +4.3%/+5.7%/+6.4% ตามลำดับ
- Valuation : ภาพรวมตลาดที่มี sentiment ดี หนุนความน่าสนใจใน Mid-small cap โดย NYT เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมามากและเริ่มยืนได้อีกครั้ง โดยซื้อขาย PER ปี 2018F เพียง 16.2x เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯที่ 29.1x + Dividend yield 18F คาดจ่าย 0.35 บาท/หุ้นหรือสูงถึง 5.7%
- Catalyst : EEC จะบวกต่อ NYT ซึ่งครอบครองพื้นที่ให้เช่าขนาดใหญ่ 75 ไร่ ผืนสุดท้าย ที่สามารถทำเป็นพื้นที่ปลอดภาษีหรือ Free zone ได้ ติดท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้ เราคาดว่า ราคาให้เช่าจริง มีแนวโน้มสูงกว่าประมาณการเดิมของเราราว 30% คาดมีข้อสรุปภายใน 4Q17F + ยอดส่งออกรถยนต์ส.ค. สูงสุดรอบ 14 เดือน +9.3% y-y
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น