Market summary

  เมื่อวาน SET แกว่งตัว Sideway โดยยังคงมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า นำโดย GPSC, EA, TPIPP, BGRIM, CKP ในขณะที่กลุ่มอสังหาฯ ยังคงปรับขึ้นต่อนำโดย SPALI, LPN, SIRI และ QH  อย่างไรก็ตามมีแรงขายในกลุ่มก่อสร้าง นำโดย CK และ STEC ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,689 จุด (+1.3 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 6.2 หมื่นล้านบาท
  นักลงทุนชาติซื้อหุ้นไทยต่อเป็นวันที่ 2 ที่ 466 ลบ. แต่ยังคงสถานะ Short สุทธิ SET50  Index Future ต่อเนื่องที่ 7,052 สัญญา

Investment theme
  จับตาการแถลงของ Yellen และ Bond yield ไทย: เราแนะนำให้นักลงทุนจับตาการแถลงของทั้ง 2 ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในคืนวันนี้ โดยประเด็นหลักมุ่งไปที่ความเห็นต่อมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงไตรมาส 4 และโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อน Yellen จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธาน FED ในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่เราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ Dollar index จากปัจจุบันที่ 93.8 จากความคาดหวังของมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ สำหรับภาพการลงทุนในประเทศ เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามทิศทางส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ระหว่างสหรัฐและไทย ซึ่งล่าสุด Bond yield ของไทยต่ำกว่าสหรัฐแล้ว ส่งผลให้เราเริ่มเห็นแรงขายในตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างประเทศ (รวม 6 วัน  -2.4 หมื่นล้านบาท) และในระยะยาวมีโอกาสที่ Bond yield ของสหรัฐจะค่อยๆปรับขึ้นบนการลดขนาดงบดุลของสหรัฐ  ซึ่งอาจถือเป็นปัจจัยทางอ้อมกดดันการลงทุนในภูมิภาค

Investment theme: ในเดือนตุลาคม คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,680-1,700 โดยแนะนำ Go with the flow และพิจารณาขายทำกำไรหาก SET ปรับตัวหลุดเส้น 10 วัน (3 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น 100 จุด ซึ่งสามารถเลี้ยงตัวไม่ได้หลุดเส้น 10 วันมาตลอด) ในขณะที่แนะนำให้นักลงทุนติดตามการ Preview ผลประกอบการกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน

Big issue
  เมื่อคืนที่ผ่านมา   ยุโรปรายงานตัวเลข PPI เดือนส.ค.สูงกว่าคาดที่ 2.5% / / นายกประยุทธ์เดินทางเข้าพบ Trump หารือหลายประเด็นเช่น กำหนดการเลือกตั้ง และการเจรจาดุลการค้า 
บทวิเคราะห์วันนี้ : PTTGC (Earning upgrade) 
  BSM ติด Trading alert / คาด AJA เข้าเกณฑ์ ในขณะที่ VTE หาก 2 วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 230 ล้านบาท

Stock pick : TSTH
TSTH: ซื้อเก็งกำไร 1.10 บาท 
  คาดกำไรไตรมาส 2 (ก.ค.-ก.ย.) จะพลิกกลับมาเป็นกำไรสูงกว่า 200 ล้านบาท+/- (จากขาดทุนไตรมาส 1 ที่ 46 ล้านบาท) เป็นผลมาจากราคาเหล็กเส้นซึ่งคิดเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมด ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนสูงกว่า 12-15% ที่ 19,700 บาท/ตัน 
  ช่วงเวลาปัจจุบัน ราคาเหล็กเส้นในประเทศจีนสูงกว่า 20,763 บาท/ตัน (4,130 หยวน/ตัน) เป็นผลมาจากมาตราการรัฐบาลจีนออกมาตราการควบคุมมลพิษ โดยสั่งปิดโรงงานเหล็กที่ไม่ได้มาตราฐาน ส่งผลให้ Supply เหล็กลดลง เป็นผลให้ราคาเหล็กจีนปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบวกต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ (ลดการ Dump) 
  โครงการภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม เหลือง ชมพู และโครงการอื่นๆที่ผ่านครม.แล้ว จะเริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี 2561 พร้อมๆกัน เป็นบวกต่อวัสดุก่อสร้าง เช่นเหล็กเส้น (คิดเป็น 7% ของมูลค่างานโยธา)

Trading idea – – ทยอยขายทำกำไร GPSC และ Switch มายัง TPIPP (8.50) / เก็งกำไร PTTGC (88.00) เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสม /

Technical View
ไม่หลุด 1683 ยังลุ้นการทดสอบ 1700 :  ภายหลังดัชนี Break กรอบ Ascending Triangle ก็แกว่งพักตัวในกรอบ 1683-1690 ซึ่งมองว่าภาพระยะสั้นยังไม่เสียหาย จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1683-1685 มองเป็นโอกาสสะสม เพื่อลุ้นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ 1700
กลยุทธ์การลงุทน (1) นักลงทุนที่มีหุ้น Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1700 (2) นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น จังหวะอ่อนตัวสู่แนวรับ 1683-1685 มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น
แนวรับ : 1685, 1680  แนวต้าน : 1695, 1700

Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ :  ตลาดหุ้นจีนหยุด 1 สัปดาห์    / Trump อยู่ระหว่างการการพิจารณาหาประธาน FED คนต่อไป / 18  ต.ค. จับตาการเลือกตั้งจีน / 22 ต.ค. ญี่ปุ่นเลือกตั้ง
ปัจจัยในประเทศ : สัปดาห์นี้ติดตามยอดวงเงินการออกบาทบอนด์ / 
หุ้นเทคนิค:
EA (B 38.00-38.50, Tp 40.50//42.00, Cut 37.75)
TPIPP (B 7.80, Tp 8.20, Cut 7.70)