|
|
|
|
|
|
คำแนะนำ
หากราคายังไม่ผ่านโซน 1,283-1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุดโซนดังกล่าว)เพื่อไปรอพิจารณาแนวรับถัดไป เน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะข้ามวัน
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,266 1,254 1,245
แนวต้าน 1,287 1,296 1,309 ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,282.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวันจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังPOLITICOรายงานว่านายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐให้การสนับสนุนนายเจอโรม พาวเวลหนึ่งในผู้ว่าการเฟดซึ่งมีแนวคิดแบบสายพิราบ มากกว่านายเควิน วอร์ชอดีตผู้ว่าการเฟดซึ่งมีแนวคิดแบบสายเหยี่ยวในการเลือกตัวประธานเฟดคนใหม่ อย่างไรก็ดีสกุลเงินดอลลาร์ลดช่วงติดลบลงในเวลาต่อมาหลัง ISM เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี ส่วนตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADPเพิ่มขึ้นเกินคาด135,000ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสมากถึง 83% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้และถือเป็นปัจจัยที่กดดันการฟื้นตัวของราคาทองคำ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้า รวมถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลหนึ่งในผู้ว่าการเฟดซึ่งเป็นตัวเก็งประธานเฟดคนใหม่และนายแพทริก ฮารเกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดียเฟีย ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือ 1,283-1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่บริเวณ 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามในโซน 1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปหากยืนได้ ต้องจับตาแรงซื้อเก็งกำไรที่อาจเพิ่มสูงขึ้น แต่หากยืนไม่อยู่ประเมินแนวรับที่ 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากราคาไม่หลุด 1,268-1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา อาจรอเปิดสถานะซื้อในโซนดังกล่าว เพื่อหวังขายทำกำไรจากการดีดตัวเมื่อราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือ 1,283-1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนควรเป็นในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ควรถือสถานะข้ามคืน |
บันทึกโดย : วันที่ :
05 ต.ค. 2560 เวลา : 11:06:11
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น