ฝนที่ตกหนักในพื้นที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะไหลหลากลงสู่พื้นที่ตอนล่างบริเวณจังหวัดสุโขทัย กรมชลประทาน แจ้งจังหวัดเตือนประชาชนให้รับมือแล้ว
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทานได้ติดตามสภาพฝนในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบน พบว่าฝนที่ตกหนักในพื้นที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำยมจำนวนมาก วัดปริมาณน้ำสูงสุดที่ไหลผ่านสถานี Y.37 อำเภอวังชิ้น ได้ 780 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 60 ประกอบกับมีปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น คาดว่าปริมาณน้ำดังกล่าวจะไหลมาถึงบริเวณสถานีวัดน้ำ Y.14 อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ในวันนี้ (6 ต.ค. 60) ในเกณฑ์สูงสุดประมาณ 920 – 930 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนจะไหลลงสู่บริเวณประตูระบายน้ำแม่น้ำยม(บ้านหาดสะพานจันทร์)ในวันนี้เช่นกัน ในเกณฑ์ประมาณ 870 – 880 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยม โดยแบ่งรับน้ำส่วนหนึ่งบริเวณเหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ เข้าคลองหกบาท ในอัตรา 280 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านลงสู่ด้านท้ายประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากนั้นจะใช้คลองเล็กคลองน้อยแบ่งรับน้ำเข้าไปตามศักยภาพที่รับได้ เพื่อลดยอดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านลงสู่บริเวณตัวเมืองสุโขทัย ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำไปยังจังหวัดสุโขทัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่ เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่ บูรณาการร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุดด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย
ข่าวเด่น