คำแนะนำ
พิจารณาโซน 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการเปิดสถานะขาย ขณะที่การเปิดสถานะซื้อจำเป็นต้องรอการอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับ1,266-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,260 1,251 1,240
แนวต้าน 1,282 1,293 1,306
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวผันผวนหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรแย่เกินคาดโดยลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับ 4.2% และตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟดที่เพิ่มขึ้นถึง 0.5% หรือเพิ่มขึ้น 12 เซนต์ในเดือนก.ย. ช่วยบดบังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แย่เกินคาดและหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในบริเวณ 1,260.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่สกุลเงินดอลลาร์จะกลับมาอ่อนค่าและหนุนให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังสำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานโดยอ้างคำกล่าวของสมาชิกรัฐสภารัสเซียรายหนึ่งว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จะสามารถตกลงในชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มในวันศุกร์ 2.96 ตัน สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเนื่องจากภาคธนาคารของสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Columbus Day
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำเกิดแรงซื้อดีดตัวขึ้นหลังจากที่อ่อนตัวลงมาใกล้ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้ ประเมินว่าจะเกิดแรงขายกดดันมาเข้าใกล้ 1,266-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
ราคาทองคำมีจุดเสี่ยงเปิดสถานะขายระยะสั้นในบริเวณ 1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืนได้) แต่หากราคาอ่อนตัวลงไปก่อนให้พิจารณาบริเวณ 1,266-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดเปิดสถานะซื้อ แต่หากหลุดโซนดังกล่าวแนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา
ข่าวเด่น