ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
สรุปแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ โบรกฯ คาด SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,690 - 1,700 จุด


 ได้แรงหนุนจากแรงซื้อดักผลประกอบการ Q3/60 และแรงซื้อหุ้นมีข่าวเฉพาะตัว แต่ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงรวมถึงฟันด์โฟลว์ที่ผันผวนจะกดดันต่อดัชนี

 *ภาวะตลาดหุ้นไทย 
  ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดการซื้อขายที่ 1,695.97 จุด +5.10 จุด หรือ +0.30% มูลค่าการซื้อขาย 5.94 หมื่นลบ.
  สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 580.25 ลบ.

  *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ

  - ดาวโจนส์ปิดลบ 1.72 จุด หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ลดลงในรอบ 7 ปี
  วันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ต.ค.60) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 22,773.67 จุด ลดลง 1.72 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,549.33 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,590.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.82 จุด หรือ +0.07% ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 1.7% S&P 
500 เพิ่มขึ้น 1.2% และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 1.5% 
  - ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 6 ต.ค. 60 ปิดที่ระดับ 49.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ -2.95%

 *มุมมองโบรกฯ เช้านี้

  บล.โกลเบล็ก คาดภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากแรงซื้อดักผลประกอบการ Q3/17 และแรงซื้อหุ้นมีข่าวเฉพาะตัว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงรวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่ผันผวนจะกดดันต่อดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,690 - 1,700 จุด 
  บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯลดลง แต่ภาพรวมของตลาดแรงงานสหรัฐฯถือว่ายังแข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนียังมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดที่ยังต้องรอการทะลุผ่าน ล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเกือบ 3% ซึ่งกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งหลายๆตัวเมื่อวันศุกร์ เราจึงมองว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะเป็นที่น่าสนใจและเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในระยะนี้
  บล.เคจีไอ คาด SET วันจันทร์ยังคงแกว่งขึ้น แต่แรงส่งน่าจะยังไม่มากพอดันให้ทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,700 ผนวกกับราคาน้ำมันดิบปรับฐาน 3% เมื่อวันศุกร์ น่าจะลดความร้อนแรงของหุ้นพลังงานลงบ้าง สำหรับปัจจัยภายนอกเมื่อวันศุกร์เป็นกลาง สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 3.3 หมื่นคน อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกต่างมองว่าเป็นภาวะชั่วคราวที่เกิดจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนสองลูกที่ถล่มสหรัฐฯ ในเดือนที่แล้ว ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงดีอยู่ สะท้อนจากตัวเลขอื่นๆ ที่ออกมาเช่นอัตราว่างงานที่ลดลงสู่ 4.2% และค่าจ้างแรงงาน (wage growth) พุ่งถึง 2.9% YoY สูงสุดหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ส่งผลให้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์กลับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. เป็น 92% จาก 88% ในวันก่อนหน้า ด้านปัจจัยภายใน นักลงทุนควรติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2560 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะเริ่มในสัปดาห์นี้


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ต.ค. 2560 เวลา : 10:04:04

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:45 am