ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
แกว่งขึ้นต่อ แต่น่าจะยังไม่ผ่าน 1,700
KGI คาด SET วันจันทร์ยังคงแกว่งขึ้น แต่แรงส่งน่าจะยังไม่มากพอดันให้ทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,700 ผนวกกับราคาน้ำมันดิบปรับฐาน 3% เมื่อวันศุกร์ (หลังรัสเซียปฎิเสธข่าวว่าได้เสนอให้ขยายเวลาการลดปริมาณผลิตน้ำมัน) น่าจะลดความร้อนแรงของหุ้นพลังงานลงบ้าง สำหรับปัจจัยภายนอกเมื่อวันศุกร์เป็นกลาง สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 3.3 หมื่นคน (ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 8 หมื่นคน และเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี) อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกต่างมองว่าเป็นภาวะชั่วคราวที่เกิดจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนสองลูกที่ถล่มสหรัฐฯ ในเดือนที่แล้ว ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงดีอยู่ สะท้อนจากตัวเลขอื่นๆ ที่ออกมาเช่นอัตราว่างงานที่ลดลงสู่ 4.2% และค่าจ้างแรงงาน (wage growth) พุ่งถึง 2.9% YoY สูงสุดหลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ส่งผลให้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์กลับเพิ่มโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. เป็น 92% จาก 88% ในวันก่อนหน้า ด้านปัจจัยภายใน นักลงทุนควรติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2560 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะเริ่มในสัปดาห์นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร TAPAC, BCP* / สะสม BBL*
TAPAC (เป้า Consensus 29.6 บาท) 1) เราประเมินราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวหลังถูก Sell on fact ภายหลังการรายงานกำไร 3Q60 (ปิดงบ ก.ค.60) ซึ่งกำไรโต +93% YoY ไปแล้ว ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ ทดสอบแนวต้าน 23 บาท และ 24.1 บาท ตามลำดับ โดย Indicators ต่างๆเริ่มส่งสัญญาณบวก (RSI ฟื้น, DI+ ตัด DI- ขึ้น) แนวรับ 21.5 (Stop loss 20.5 บาท) 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q60 (ปิดงบ ต.ค.60) จะโตเด่น YoY และ QoQ จากการรับรู้รายได้ธุรกิจอสังหาฯที่สวีเดน (มากกว่าใน 3Q60) 3) คาดเตรียมเปิดตัวธุรกิจค้าปลีก เครื่องสำอาง ภายในปลายปีนี้ (แจ้งจัดตั้ง บ.ย่อย ไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค.60) คาดจะเป็น Growth driver อีกตัวสำหรับปี 2561 (พ.ย.60 - ต.ค.61) นอกเหนือจาก i) ธุรกิจอสังหาฯสวีเดน ii) ธุรกิจพลาสติก ที่ Turnaround ในปีนี้
BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) 1) สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 46 บาท โดยกำหนด Trailing Stop 41.5 บาท สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 42.75 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” หากยังไม่ผ่าน แนะนำ “อ่อนตัวสะสม” 2) ประเมิน Valuation ยัง Laggard หุ้นกลุ่มโรงกลั่น (PE ปี 2560 < 10 เท่า) และ Laggard บ.ลูก อย่าง BCPG* (สมมติฐานราคาเหมาะสม BCPG* ที่ฝ่ายวิจัยฯใช้คำนวณเป้าพื้นฐาน BCP* ต่ำเพียง 13.1 บาท แต่ล่าสุดราคาปิด BCPG* วันศุกร์ = 20.9 บาท)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q60 โต 4.2% QoQ และ 4.0% YoY เป็น 8.38 พันล้านบาท ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Preview 3Q60 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ วันที่ 4 ต.ค.60 2) เราคาด BBL* จะเป็นธนาคารที่ได้อานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการฟื้นตัวของสินเชื่อธุรกิจ และกำไรธุรกิจตราหนี้และตลาดปริวรรตเงินตรา (ตามการส่งออกของไทยที่โตแกร่ง) 3) ประเมิน Valuation laggard โดยมี PBV ที่ยังต่ำเพียง 0.93 เท่า โดยค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 1.4 เท่า 4) ประเมินแนวรับ 185 บาท แนวต้าน 193 บาท และ 200 บาท ตามลำดับ
หุ้นในกระแส
กลุ่มสายการบิน (THAI*, AAV*, BA*, NOK) และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน (AOT*, BAFS, SUSCO) เราประเมินการปลดธงแดง ICAO จะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ โดยสายการบินไทยจะสามารถเปิดเส้นทางบินไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ได้ตามปกติ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ THAI*, AAV*, BA* และ NOK รวมถึงหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อาทิ AOT*, BAFS และ SUSCO เป็นต้น
กลุ่มค้าปลีก (CPN*, COM7*, JMART*) จากประเด็นข่าวใน นสพ โพสต์ทูเดย์วันนี้ “ดันจัดช็อปช่วยชาติ เอกชนเตรียมชงรัฐบาล 16 ต.ค. หวังคนชั้นกลางกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย” เราประเมินจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง จะทำให้การบริโภคในประเทศฟื้นตัวเด่นช่วงปลายปี และหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (เช่น ช้อบช่วยชาติ) จะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มมากขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” CPN*, COM7*
กลุ่มเหล็ก (TMT, THE) เราประเมิน ราคาเหล็กจะเริ่มฟื้นตัวหลังวันหยุดยาว วันชาติจีน สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งจากราคาเหล็กที่ฟื้นตัวใน 3Q60 คาดจะทำให้หุ้นกลุ่มเหล็กมีกำไรสต๊อกเหล็ก (ราว 2 – 3 บาท/กก.) แนะนำ “เก็งกำไร” THE โดยประเมินหากวันนี้ ยืนเหนือแนวราคา 4.84 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 5 บาท และ 5.3 บาท ตามลำดับ / แนวรับ 4.76 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) ICAO ปลดล็อคธงแดงสำหรับประเทศไทยแล้ว (เว็บไซต์ ICAO) ประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกสำหรับธุรกิจสายการบินของไทย หลังจากการขึ้นเครื่องหมายธงแดงบนหน้าเว็บไซต์ของ ICAO มาเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยมีประเด็นความกังวลเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการจากการตรวจสอบกรมการบินพลเรือนในอดีต ทั้งนี้ การปลดล้อคธงแดงที่เกิดขึ้นถือว่าสอดคล้องกับคาดการณ์ของเรา (อ้างอิงบทวิเคราะห์วันที่ 4 ต.ค.60) ซึ่งจะทำให้โอกาสทางธุรกิจของสายการบินที่มีแผนเพิ่มเส้นทางบินและความถี่ไปเกาหลีและญี่ปุ่นมีมากขึ้นในอนาคต หลังถูกจำกัดการขยายธุรกืจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (โดยเฉพาะ AAV* และ NOK) นอกจากนี้ เรามองว่า AOT* จะได้ประโยชน์จากเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ยังคงแนะนำซื้อในหุ้น AOT และ AAV โดยมีราคาเป้าหมาย 62.70 และ 7.48 บาท ตามลำดับ
(+) SEAFCO รับงานก่อสร้าง 2 โครงการใหม่ 337ลบ. SEAFCO รายงานบริษัทได้รับโครงการก่อสร้างงานฐานรากใหม่ 2 โครงการมูลค่ารวม 337ลบ. ประกอบด้วย โครงการก่อสร้าง อาคารชุด เอส 47 และ งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ใบจ้างชุดที่ 2) (SET) เรามองว่ารายงานการรับงานก่อสร้างดังกล่าวเป็นข่าวบวกต่อบริษัท หลังจาก Backlog ของบริษัทไม่เพียงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ Timeline ของการรับงานก่อสร้างรากฐานของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มก็สามารถทำได้ตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้าว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมี flow ของงานก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะจากการ subcontract งานก่อสร้างฐานรากของโครงการรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้รายได้และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป อีกทั้งพัฒนาการเชิงบวกดังกล่าวถือเป็นการยืนยันพื้นฐานที่ดีและมุมมองของเราต่อบริษัท เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ บน SEAFCO ที่ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท
(+) ผู้บริหาร 'อมตะ' ชี้สัญญาณบวกทุนญี่ปุ่นรุกอีอีซี (กรุงเทพธุรกิจ) บรรยากาศที่นักธุรกิจญี่ปุ่นเกือบ 600 ราย ตบเท้าเข้าร่วมงานเปิดโต๊ะเจรจาจับคู่ธุรกิจ เมื่อช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีการส่งสัญญาณจากภาครัฐของไทย ถึงการเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอกชนญี่ปุ่นที่หันกลับมามองประเทศไทยเป็นฐานลงทุนอีกครั้ง ด้วยโครงการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี
(+ กลุ่มค้าปลีก CPN*, COM7*) ดันจัดช็อปช่วยชาติ เอกชนเตรียมชงรัฐบาล 16 ต.ค. หวังคนชั้นกลางกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย (โพสต์ทูเดย์) ภาคเอกชนแนะรัฐ ออกมาตรการช็อปช่วยชาติ กระตุ้นคนชั้นกลางใช้จ่ายหนุนเศรษฐกิจฟื้นปลายปี แหล่งข่าวจากบริษัทเอกชน เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ รัฐบาลได้เรียกภาคเอกชนเข้าหารือ เพื่อสอบถามมาตรการที่จะให้ภาครัฐช่วยในช่วงสุดท้ายของปีแต่ละภาคธุรกิจ เช่น ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจค้าปลีก เพื่อที่รัฐบาลจะได้ตัดสินใจหาแนวทางเพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจในปลายปี
(+) 3 แบงก์ปล่อยกู้รถไฟฟ้าแสนล. (โพสต์ทูเดย์) BBL* ดึง 2 แบงก์ใหญ่ SCB* - KTB* ร่วมปล่อยกู้รถไฟฟ้า 2 สาย เกือบแสนล้าน คาดกระตุ้นลงทุนเอกชนได้ นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้ จะมีพิธีลงนามในข้อตกลงการปล่อยสินเชื่อร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงไทย เพื่อสนับสนุนกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ทำโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง มูลค่าทั้งสองโครงการรวมกัน 1 แสนล้านบาท หลังจากธนาคารกรุงเทพได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดหาเงินกู้ รวมทั้งเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้
(+) TICON ลุยควบ TREIT 3 กองอสังหาเสร็จปีนี้ (ข่าวหุ้น) TICON เดินหน้าควบรวมกองทุนรวมอสังหาฯ TFUND-TLOGIS-TGROWTH เข้ากับ TREIT ให้สำเร็จภายในปีนี้ พร้อมขึ้นแท่นเป็นกองรีทใหญ่ที่สุดในไทย มูลค่ารวม 3.26 หมื่นล้านบาท วอนที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนไฟเขียว 18-19 ต.ค.นี้ ส่งซิกงบครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก
(+) UNIQ*-ITD*-STEC* จ่อเซ็นงาน พ.ย.นี้ “ซุปเปอร์บอร์ดฯ” ไฟเขียวผลประมูลทางคู่ 5 สาย (ข่าวหุ้น) “UNIQ*-ITD*-STEC*” รับข่าวดี “ซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อ” รับทราบผลประมูลรถไฟทางคู่ 5 สาย 9 สัญญา ไร้ข้อท้วงติง ไฟเขียว “ร.ฟ.ท” เดินหน้าต่อ คาดชง ครม.พร้อมลงนามได้ไม่เกินกลางเดือน พ.ย.นี้
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SUSCO (เป้า Consensus 5.3 บาท) ประเมินแนวรับ 3.70 บาท และ 3.60 บาท ตามลำดับ / แนวต้าน 3.9 บาท และ 4.1 บาท ตามลำดับ (Stop loss 3.50 บาท)
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) ประเมินกรอบ Channel Line 3.5 – 3.8 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และหากทะลุผ่านกรอบแนวต้าน 3.8 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 4.0 บาท (Trailing stop 3.5 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 13.7 บาท … สูงสุด 15.5 บาท) พิจารณาที่แนวราคา 13.8 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 14.8 บาท แนวรับ 13.4 บาท (Stop loss 13.2 บาท) ... คาดผลการดำเนินงาน 3Q60 โต QoQ และ YoY, 4Q60 กำไรลุ้นทำนิวไฮ
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท ... สูงสุดใน Consensus 4.7 บาท) ประเมินแนวรับ 3.8 บาท แนวต้าน 4.5 บาท (Stop loss 3.6 บาท) ... ราคา Laggard กลุ่มเช่าซื้อ + คาดผลการดำเนินงาน 3Q60 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง (+YoY, +QoQ)
CCET (เป้า Consensus 4.9 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินหากผ่านแนวต้าน 3.8 บาท มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.2 บาท แนวรับ 3.72 บาท และ 3.6 บาท (Tailing stop 3.52 บาท) ... Valuation น่าสนใจด้วย PE 2560 <10 เท่า + รับผลบวกจากแผนปฏิรูปภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลสหรัฐฯ
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing Stop 16.4 บาท
CHEWA (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินกรอบแนวรับ – แนวต้าน 1.29 – 1.40 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และกรณีผ่านกรอบแนวต้าน 1.40 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.46 บาท (Stop loss 1.28 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
AAV* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.48 บาท ฝ่ายวิจัยฯ มีมุมมองบวกกับ AAV* หลังจากได้ไปร่วมงาน One AirAsia’s Global Investor Day ที่ประเทศมาเลเซีย โดยแม้จะคาดว่าการแข่งขันด้านราคาของสายการบินต่างๆ จะยังคงเข้มข้นต่อเนื่องใน 2H60 ไม่ต่างจากใน 1H60 อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดการท่องเที่ยวของไทยเป็นลบน้อยลง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวขึ้น และยังมีฐานนักท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งจากยุโรปและตะวันออกกลาง
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1699 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ปรับขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1699 จุดนั้น อาจผลักขึ้นในกรอบ 1699-1715 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ปรับลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1699 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1699-1683 จุด
แนวรับวันนี้: 1691/1685 แนวต้านวันนี้: 1699/1707
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ข่าวเด่น