กลยุทธ์วันนี้
SMID Cap
Smart Pick
1. สะสม AAV : ราคาปิด 6.50 บาท ราคาเหมาะสม 9.30 บาท
a) Yuanta ปรับเพิ่มมุมมองหุ้นกลุ่มสายการบินขึ้นเป็นบวก หลัง ICAO ปลดล็อคธงแดงให้ประเทศไทยในวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกสายการบินสามารถกลับมาขยายเส้นทางใหม่ไปยังต่างประเทศได้อีกครั้ง
b) AAV ได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากมีความพร้อมของจำนวนเครื่องบิน และวางแผนขยายเส้นทางไปต่างประเทศไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงคาดว่าจะเห็นการเปิดเส้นทางใหม่ เช่น อินเดีย ขณะที่ Thai AirAsia X คาดว่าจะเปิดเส้นทางบิน ได้แก่ กรุงเทพ-ญี่ปุ่น, กรุงเทพ-เกาหลีได้อีกครั้ง และเป็นบวกต่อ AAV จากจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในฐานะสายการบินเชื่อมต่อ
c) ผลจากการปรับเพิ่มประมาณการ ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 คาดเติบโต +22.1% YoY เป็น 1,673 ล้านบาท และต่อเนื่อง +38% YoY เป็น 2,308 ล้านบาท ในปี 2562 และได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 9.30 บาท
2. สะสม TPIPP : ราคาปิด 7.80 บาท ราคาเหมาะสม 8.20 บาท
a) มี Catalyst รออยู่ คือการเริ่มจ่ายไฟของโรงไฟฟ้าขยะและความร้อนทิ้งจำนวน 90MW ที่คาดว่าจะ COD ได้ในเดือน ต.ค.2560
b) คาดกำไรปกติ 3Q60 ทรงตัว QoQ เนื่องจากไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่เข้าสู่ระบบในไตรมาสนี้ แต่กำไรปกติ 4Q60 คาดว่าจะทำระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าใหม่ 90MW และผลักดันกำไรให้เติบโต YoY ไปถึง 3Q61
c) Growth สูง และเงินปันผลเด่น คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +108% YoY เป็น 6,478 ล้านบาท และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 5% ต่อปี ขณะที่ Valuation ยังไม่แพงที่ระดับ PER2561 เพียง 10.1 เท่า
d) มี Upside จากการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจำนวน 78MW ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน พ.ย.
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.1 จุด ปิดที่ 1695.97 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.9 หมื่นล้านบาท ได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP (+5.01%), PTTGC (+3.12%), และ IRPC (+2.36%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการราว 580 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 159 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 7.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 3.1 หมื่นสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX มีแนวโน้มทดสอบ 1700 จุดและอาจปิดยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ ผลักดันกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี หลังกลุ่ม OPEC ส่งสัญญาณว่า อาจมีมาตรการพิเศษเพื่อรักษาสมดุลของอุตสาหกรรมน้ำมันในปีหน้า นอกจากนี้กลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำวันนี้มี Sentiment เชิงบวก หลัง ICAO ปลดธงแดงประเทศไทย หลังมีกปัญหายืดเยื้อกว่า 2 ปี ทำให้สายการบินของไทยกลับมาขยายเส้นทางบินได้ตามปกติ เรามอง AAV/ AOT เป็นทางเลือกที่น่าสนใจของการเก็งกำไรบนประเด็นข่าวนี้ ขณะที่ THAI จะได้ผลกระทบเชิงลบจากภาวะการแข่งขันในเส้นทางบินที่ทำเงินอย่างญี่ปุ่น / เกาหลีใต้
สหรัฐฯรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ก.ย. ลดลง 3.3 หมื่นตำแหน่ง นับเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 7 ปี และสวนทางกับคาดการณ์ของตลาด (+8 หมื่นตำแหน่ง) จากผลของพายุเฮอริเคน Harvey และ Irma อย่างไรก็ดี อัตราการว่างงานกลับดีขึ้นจาก 4.4% เป็น 4.2% ส่งผลให้ตลาดประเมินว่า เฟด มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค.ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 78.5%
กลยุทธ์การลงทุนโดยรวม คือ "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) เลือกหุ้นที่มีประเด็นการลงทุนเฉพาะตัวในเชิงบวก และมี Valuation ไม่แพง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- สหรัฐฯ รายงานอัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 4.2% ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 4.4% และค่าแรงงานเพิ่มขึ้น 2.9% YoY และ 0.5% MoM ถึงแม้ว่าอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะลดลง 3.3 หมื่นตำแหน่ง
- Trump เผยจะตัดสินใจเกี่ยวกับประธาน Fed คนต่อไป ภายใน 2-3 สัปดาห์
- ICAO ประกาศปลดธงแดงมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทย
- พายุเฮอริเคน Nate ลดระดับความรุนแรงเหลือเป็นเพียงพายุดีเปรสชั่น
- สภา Catalan จะเปิดประชุมสภาในวันนี้ เพื่อพิจารณาการเป็นแคว้นอิสระ
- ติดตามการรายยงาน PMI จีน และการกำหนดวันออกสัญญาโครงการ รถไฟไทย-จีน เฟสแรก วันนี้
- ติดตาม Fed Minutes วันที่ 11 ต.ค.
- ติดตามการรายงานการ นำเข้า-ส่งออก จีน และ เงินเฟ้อ สหรัฐฯ วันที่ 13 ต.ค.
ข่าวเด่น