สภาวะตลาดวันที่ 09 ตุลาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,275.01-1,284.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 20,380 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 170 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,210 บาท
  (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50น. ของวันที่ 09/10/60)

แนวโน้มวันที่ 10 ตุลาคม 2560
  แม้ว่าสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลงในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนอัตราการว่างงานดิ่งลงสู่ 4.2% ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบกว่า 16 ปี ข้อมูลการจ้างงานมีความผันผวนเพราะได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคน แต่ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายของเฟดบางคนไม่เห็นด้วยในเรื่องการคุมเข้มนโยบายการเงิน ทั้งนี้นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในเดือนก.ย.เป็นตัวเลขที่ "น่าตกใจ" การประชุมของเฟดในเดือนธ.ค.จะเป็นเวลาที่เร็วเกินไปที่จะตัดสินได้ว่า ภาวะเงินเฟ้อกลับมาแล้วหรือไม่ แต่นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อ "มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น" เนื่องจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำและปัจจัยนี้จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้นได้แต่ก็ขยับขึ้นไปไม่ไกลนัก ซึ่งนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อเป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ ขณะที่ทางด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนออกมาน่าผิดหวัง ซึ่งพบว่าภาคบริการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 21 เดือน อย่างไรก็ตามทองคำไม่ได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะตลาดหุ้นจีนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือนในวันจันทร์หลังจากช่วงวันหยุดยาวในสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้นักลงทุนชาวจีนจับตาการประชุมสภาคองเกรสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะเริ่มต้นในวันที่ 18 ต.ค.นี้ นักลงทุนรอดูการประชุมผู้นำระดับประเทศจีนในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นแม้จะมีมุมเชิงบวกเพิ่มขึ้นแต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำเพื่อสะสมแรงซื้อ

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับสำคัญ 1,260  ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้มั่นคงส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,306-1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

ทองคำแท่ง (96.50%) 
แนวรับ            1,266 (19,950บาท)         1,260 (19,850บาท)             1,251 (19,750บาท)
แนวต้าน          1,293 (20,450บาท)         1,306 (20,650บาท)             1,313 (20,750บาท)
  
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ            1,266 (20,120บาท)         1,260 (20,020บาท)             1,251 (19,880บาท)

แนวต้าน          1,293 (20,550บาท)         1,306 (20,750บาท)             1,313 (20,870บาท)