กลยุทธ์วันนี้

          SMID Cap

Smart Pick
1. สะสม AAV : ราคาปิด 6.70 บาท ราคาเหมาะสม 9.30 บาท 
          a) Yuanta ปรับเพิ่มมุมมองหุ้นกลุ่มสายการบินขึ้นเป็นบวก หลัง ICAO ปลดล็อคธงแดงให้ประเทศไทยในวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกสายการบินสามารถกลับมาขยายเส้นทางใหม่ไปยังต่างประเทศได้อีกครั้ง  
          b) AAV ได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากมีความพร้อมของจำนวนเครื่องบิน และวางแผนขยายเส้นทางไปต่างประเทศไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงคาดว่าจะเห็นการเปิดเส้นทางใหม่ เช่น อินเดีย ขณะที่ Thai AirAsia X คาดว่าจะเปิดเส้นทางบิน ได้แก่ กรุงเทพ-ญี่ปุ่น, กรุงเทพ-เกาหลีได้อีกครั้ง และเป็นบวกต่อ AAV จากจำนวนผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในฐานะสายการบินเชื่อมต่อ
          c) ผลจากการปรับเพิ่มประมาณการ ส่งผลให้กำไรปกติปี 2561 คาดเติบโต +22.1% YoY เป็น 1,673 ล้านบาท และต่อเนื่อง +38% YoY เป็น 2,308 ล้านบาท ในปี 2562 และได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 9.30 บาท

2. สะสม AOT : ราคาปิด 59.50 บาท ราคาเหมาะสม 71.00 บาท 
          a) Yuanta มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น AOT เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการปลดล็อกธงแดงของ ICAO ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นทั้งจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เนื่องจากสายการบินของไทยจะกลับมาขยายเส้นทางบินได้อีกครั้ง 
          b) จำนวนนักท่องเที่ยวยังขยายตัวโดดเด่น โดยตัวเลขเบื้องต้นคาดว่าจะเติบโตถึง +13% YoY ในเดือน ก.ย. และ 7 วันแรกเดือน ต.ค คาดเติบโตสูงกว่า +15% YoY จากแรงหนุนของ Golden Week ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นมาก
          c) ผลจากการปรับเพิ่มสมมติฐานนักท่องเที่ยวขึ้น ส่งผลให้ประมาณการกำไรปกติปี 2561-2562 เพิ่มขึ้นจากเดิม 4% และ 6% ตามลำดับ และได้เป้าหมายสิ้นปี 2561เพิ่มขึ้นเป็น 71.00 บาท

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ขึ้นไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่บริเวณ 1700 จุด แต่ยังไม่สามารถยืนเหนือได้ ก่อนมาปิดที่ 1692.22 จุด ปรับตัวลดลง 3.75 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นล้านบาท  ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 703 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 259 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ 287 สัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 1 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 391 ล้านบาท

กลยุทธ์วันนี้
          SET INDEX มีอาการซึมตัวลง มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน และเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นจากกลุ่มสถาบันในประเทศ แต่เรามอง Downside จำกัด บริเวณ 1680 จุด +/- มองกรอบวันนี้ 1690-1700 จุด เพราะกระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลาง โดยค่าเงินบาททรงตัวอย่างมีเสถียรภาพบริเวณ 33.30-33.50 บาท/เหรียญฯ และราคาน้ำมันดิบ ฟื้นตัวบนความคาดหวังว่า กลุ่ม OPEC อาจมีมาตรการรักษาเสถียรภาพเพิ่มเติมในการประชุมประจำปีในเดือน พ.ย.นี้
          กลุ่มขนส่ง/สายการบิน มีความคึกคักมากขึ้น (วานนี้ SETTRANS +1.4%) รับข่าวบวกการปลดธงแดงจาก ICAO ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังมานานกว่า 2 ปี เรามองว่า สายการบิน สามารถกลับมาเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศได้เป็นปกติอีกครั้ง ช่วยบรรเทาความรุนแรงของการแข่งขันของเส้นทางในประเทศ ส่วนท่าอากาศยาน จะได้ประโยชน์ทางตรงจากจำนวนเที่ยวบินที่มากขึ้นในดอนเมือง เราชอบ AAV/ AOT 
          กลยุทธ์การลงทุนเหมือนเดิม คือ "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" เราให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่มี Upside ค่อนข้างจำกัดแล้ว เน้นเลือกหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว/ แนวโน้มผลประกอบการโตเด่น/ Valuation ไม่แพง

ปัจจัยสำคัญวันนี้

• จีนรายงาน PMI ภาคบริการเดือน ก.ย. ที่ 50.6 จุด ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 52.7 จุด และ PMI Composite เดือน ก.ย. ที่ 51.4 จุด ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 52.4 จุด
• แท่นขุดเจาะน้ำมันกว่า 92% และแท่นขุดเจาะแก๊สราว 80% ของกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโก ปิดทำการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากพายุเฮอริเคน Nate
• สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ECB มีความเห็นว่าควรลดวงเงิน QE ตั้งแต่ปีหน้า แต่จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
• สภา Catalan จะพิจารณาผลประชามติในวันที่ 10 ต.ค. เลื่อนจาก 9 ต.ค.
• วันนี้ TOA เข้าเทรดใน SET กลุ่ม วัสดุก่อสร้าง ราคา IPO ที่ 24 บาท
• ติดตาม Fed Minutes วันที่ 11 ต.ค.
• ติดตามการรายงานการ นำเข้า-ส่งออก จีน และ เงินเฟ้อ สหรัฐฯ วันที่ 13 ต.ค.