ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กรมชลฯแจ้งเตือนท้ายเขื่อนพระรามหก รับมือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เหตุน้ำเหนือไหลลงเขื่อนยังมาก


กรมชลประทาน แจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนพระรามหก เตรียมรับมือระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก หลังพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำป่าสักยังมีฝนตกชุก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้น 

 

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมชลประทานได้ปรับการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น ในอัตราวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯกับปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่แม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่วันที่ 6 .. 60 เป็นต้นมา ซึ่งปริมาณน้ำจำนวนนี้จะไหลลงไปรวมกับปริมาณน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสักบริเวณเหนือเขื่อนพระรามหก กรมชลประทาน ได้ควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหก ไม่เกิน 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.80 - 1.20 เมตร ในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา นั้น

 

 

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรว่า ในช่วงวันที่ 9 - 11 .. 60 ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้พัฒนาเป็นพายุดีเปรสชันแล้วปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนกลาง ในวันพรุ่งนี้ (10 .. 60) หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือในช่วงวันที่ 10 - 11 .. 60 ตามลำดับ และมีแนวโน้มที่จะมีฝนตกต่อเนื่องในช่วงวันที่ 13 - 15 .. 60 

 

ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้บริเวณพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำป่าสัก มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก     ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่องตามไปด้วย ปัจจุบัน(9 .. 60) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์     มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 864 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 90 ของความจุที่ระดับเก็บกัก คงเหลือพื้นที่รองรับน้ำได้อีกเพียง 96 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ยังไม่สิ้นสุดฤดูฝนของภาคกลาง ดังนั้น เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำอย่างเหมาะสม     กรมชลประทาน มีความจำเป็นที่ต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร         เป็นวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนนี้ไหลลงไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสักแล้ว จะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกให้อยู่ในเกณฑ์ 550 - 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.20 - 0.30 เมตร

กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มอีก เนื่องมาจากมีฝนตกลงมาเพิ่ม กรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆต่อไป


LastUpdate 10/10/2560 13:15:10 โดย : Admin

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:38 pm