สรุปแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ โบรกฯ คาด SET บวกต่อ ตอบรับสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย เค้าโครงการเลือกตั้งชัดเจนขึ้น ช่วยเรียกความเชื่อมั่นและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เป็นบวกโดยตรงกับหุ้น Big Cap ประเมิน SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,715 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง 

  *ภาวะตลาดหุ้นไทย 
  ดัชนี SET วานนี้สามารถฝ่าด่านแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดขึ้นมาได้อย่างมีเสถียรภาพ หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สามารถผ่านด่านแนวต้านนี้ขึ้นมาได้ โดยปิดที่ 1,706.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.73 จุด หรือ +0.87% มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 81,000 ลบ. 
  โดยแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในช่วงบ่าย หลังนายกฯ ให้ความชัดเจนการเลือกตั้งในปีหน้า คาดจะประกาศเลือกตั้งในเดือน มิถุนายน 61 และจะจัดให้มีการเลือกตั้งได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 
  พร้อมกันนี้ นายกฯ ยืนยันว่า ยังไม่ได้ตกลงนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว รัฐบาลกำลังพิจารณาแก้กฎหมายการนำเข้าเนื้อหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง จากสหรัฐฯ ได้
  สำหรับหุ้นที่ดันดัชนีมากสุดวานนี้ 1 ใน 5 อันดับแรกเป็นหุ้นน้องใหม่อย่าง TOA ซึ่งเข้าซื้อขายในวันแรก ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 12,000 ลบ. ราคาหุ้นปิด 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 35.42% จากราคาไอพีโอที่ 24.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.50 บาท ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมีผลดันดัชนี 1.75 จุดมากสุดอันดับ 2 รองจาก PTT ที่ราคาหุ้นปิดบวก 2.39% และมีผลดันดัชนีมากสุดอันดับ 1 ที่ 2.89 จุด
  สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อ 2,313 ลบ. สถาบันซื้อ 1,836 ลบ.

  *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ
  - ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 69.61 จุด หลังนลท.เลือกเก็บหุ้นค้าปลีก-สายการบิน รับงบแจ่ม
  ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 22,830.68 จุด เพิ่มขึ้น 69.61 จุด หรือ 0.31% ดัชนี S&P ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 2,550.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.91 จุด หรือ 0.23% และดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ระดับ 6,587.25 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด หรือ 0.11%
  - ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 10 ต.ค. 60 ปิดที่ระดับ 50.92 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.34 ดอลลาร์ หรือ 2.70%

  *มุมมองโบรกฯ เช้านี้
  บล.กรุงศรี คาด SET บวกต่อ ตอบรับสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย เค้าโครงการเลือกตั้งชัดเจนขึ้น ช่วยเรียกความเชื่อมั่นและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เป็นบวกโดยตรงกับหุ้น Big Cap โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธนาคารคาดหวังเศรษฐกิจขยายตัวหนุนยอดปล่อยสินเชื่อเติบโต ภาระหนี้ลดลง และกลุ่มนิคมฯอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีหุ้นขนาดกลางที่ได้ประโยชน์ อาทิ กลุ่มรับเหมา และ กลุ่มสื่อโฆษณา 
  บล.เคทีบี คาดดัชนีปรับตัวขึ้นได้แต่จะผันผวนและขึ้นได้ไม่รุนแรง ทั้งนี้ ตัวแปรด้านการเมืองที่มีความชัดเจนในเรื่องของการเลือกตั้งที่ นายกฯประกาศจะมีขึ้นในเดือน พ.ย.61 ได้พลิกตลาด กระตุ้นแรงซื้ออีกครั้ง โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่พลิกมาซื้อหุ้นไทย 2.3 พันล้านบาท หรือมียอด net sell สูงที่สุด นับตั้งแต่ 2 ต.ค.60 เป็นต้นมา 
  ตัวแปรอื่นๆ ของตลาดหุ้น จะเป็น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าทำ new high จากข่าวเฉพาะบริษัทและผลประกอบการที่ออกมาดี ด้านยุโรป ยังมีความกังวลอยู่บ้างต่อการประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญา ส่วนปัจจัยในประเทศอื่นๆ การเข้ามาเก็งงบการเงิน Q3/60 และความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจของไทย อยู่ในระดับสูง เป็นบวกที่สำคัญต่อตลาดหุ้นไทย
  บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET มีโอกาสแกว่งตัวในแดนบวกต่อเนื่องจาก Sentiment เชิงบวกหลังทะลุผ่านระดับ 1,700 จุดขึ้นมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สูงขึ้น กระแสเงินทุนมีโอกาสไหลเข้าหนาแน่นขึ้นสังเกตได้จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว เราเชื่อว่าหุ้นขนาดใหญ่จะกลับมา Outperform ตลาดได้อีกครั้งโดยกลุ่มพลังงานได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวพุ่งขึ้น 2.7% เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศผลการดำเนินงาน Q3/60 วันนี้วันแรกเชื่อว่าจะไม่สร้างความผิดหวังให้ตลาด 

  บล.โกลเบล็ก คาดภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากความชัดเจนแผนการเลือกตั้งของไทยในช่วงพ.ย.61 ,ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึง sentiment เชิงบวกจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้า 3 วันต่อเนื่องตามทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายจาก Overbought ทางเทคนิคซึ่งจะกดดันต่อดัชนีได้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,715 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง