คำแนะนำ
หากสามารราคาสามารถยืนเหนือ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุดโซน 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาจะปรับขึ้นมาแล้วแต่แรงขายยังคงไม่มากนัก
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,281 1,273 1,260
แนวต้าน 1,300 1,309 1,320
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือเป็นปัจจัยแรกที่กดดันดอลลาร์พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่งหลังเยอรมนีเปิดเผยยอดส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.มากที่สุดในรอบ 1 ปีซึ่งยิ่งตอกย้ำการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบีอาจพิจารณาปรับลดการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมอีซีบีในวันที่ 26 ต.ค.นี้ การคาดการณ์ดังกล่าวหนุนให้ยูโรแข็งค่าขึ้นและส่งผลหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 1,294.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดโดยถูกสกัดช่วงบวกจากการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงและแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีนี้ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตำแหน่งงานเปิดใหม่ของสหรัฐและรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 19-20 ก.ย. พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีและการประกาศอิสรภาพของแคว้นกาตาลุญญาอย่างใกล้ชิด เพราะหากสถานการณ์ดังกล่าวลุกลามอาจเป็นปัจจัยที่เข้ามาหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้น และระยะสั้นหากพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง แต่หากราคาย้ำฐานในบริเวณ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะค่อยๆดีดกลับไปทดสอบโซนแนวต้านอีกครั้งเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
หากสามารถยืนเหนือ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากหลุด 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเปิดสถานะขายอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น