คำแนะนำ
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,281ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถรอขายทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าฝ่าไปได้ให้รอขายบริเวณแนวต้านถัดไป
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,281 1,273 1,260
แนวต้าน 1,300 1,309 1,320
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายหลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด ถึงแม้เฟดจะเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ก็ตาม นอกจากนี้ยังเกิดความวิตกเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขัดแย้งกับนายบ็อบ คอร์เคอร์ วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งอาจทำให้การผลักดันแผนการดังกล่าวประสบกับความยากลำบากเป็นอีกปัจจัยที่กดดันสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,293.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อีกทั้งต้องติดตามถ้อยแถลงของนาย Mario Draghi ประธานอีซีบี และถ้อยแถลงของนาง Lael BrainardและนายJerome Powell ผู้ว่าการเฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การดำเนินนโยบายการเงินของอีซีบีและเฟดในอนาคต
ปัจจัยทางเทคนิค
ราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,300ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้น หากยืนได้แข็งแกร่ง ทำให้ประเมินว่าในระยะสั้น ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้านถัดไป 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับนั้นอยู่ในบริเวณ 1,281-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,281-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,300 -1,309ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น