กลยุทธ์วันนี้
SMID CAP
Smart Pick
1. สะสม GGC : ราคาปิด 16.90 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 บาท
a) ราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวลง -9.1% จากแรงขายทำกำไร หลังปรับตัวขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของเราในช่วงก่อนหน้า และความกังวลต่อผลประกอบการ 3Q60 ที่จะต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้า โดยคาดว่าจะทำได้เพียงทรงตัว QoQ เทียบกับคาดการณ์เดิมที่เติบโตสูง QoQ
b) คงมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากการปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลจาก B7 เป็น B10 ในปี 2561 และเป็นผู้ผลิตแฟตตี้แอลกฮอลล์รายเดียวในประเทศ นอกจากนั้น การเป็นบริษัทลูกในกลุ่ม PTT เป็นอีกปัจจัยที่สร้างความโดดเด่นจากการเกิด Synergy ระหว่างกัน
c) ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash Company และคงประมาณการกำไรปกติปี 2561 ที่ 1.2 พันล้านบาท +31.3% YoY การอ่อนตัวลงของราคาหุ้นในช่วงนี้เป็นโอกาสเข้าสะสม และคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้ดีจากการ Buy on Fact หลังรายงานผลประกอบการ 3Q60 ในเดือน พ.ย.
2. สะสม TMILL : ราคาปิด 5.00 บาท ราคาเหมาะสม 7.10 บาท
a) คาดกำไรปกติ 3Q60 ที่ 20.2 ล้านบาท เติบโต +41% YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวระดับสูงที่ 19.5% ใน 3Q60 เพิ่มขึ้นจาก 3Q59 ที่ 12.7%
b) เข้าสู่ High Season ของธุรกิจแป้งสาลี เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 20-28 ต.ค.เป็น Sentiment บวกในระยะสั้น
c) หากกำไร 3Q60 ออกมาใกล้กับคาดการณ์จะส่งผลให้กำไร 9M60 คิดเป็น 86% ของประมาณการกำไรทั้งปี จึงมีโอกาสที่เราจะทบทวนประมาณการกำไรขึ้นจากเดิมที่ 100 ล้านบาท +44.8% YoY
d) เป็น 1 ในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคบริโภคในปีหน้า รวมทั้งยังมี Valuation ที่น่าสนใจระดับ PER2561 ที่ 16.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม MAI ที่ 30 เท่า
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 7.19 จุด ปิดที่ 1714.14 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 7.8 หมื่นล้านบาท ยังคงนำโดยหุ้นในกลุ่ม Domestic อย่าง KBANK +2.36%, BJC +2.35%, SAWAD +8.2% และ DTAC +3.07% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีกราว 1.6 พันล้านบาท รวมกว่า 5.2 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิ 470 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 1.1 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 2.5 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4.6 หมื่นสัญญา สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิ 2.2 หมื่นสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
วันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว คาดทิศทาง SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้างในกรอบแคบ 1710-1720 จุด แม้ SET INDEX จะชะลอความร้อนแรงลงในช่วงสั้น แต่เรามอง Downside จำกัด เพราะกระแสเงินทุนต่างชาติดูเป็นบวกมากขึ้น ด้วยการซื้อสุทธิ 4 วันติดต่อกันรวมกว่า 5.2 พันล้านบาท
รายงานการประชุมเฟดเมื่อ 19-20 ก.ย. ประเด็นที่สมาชิกเฟดให้น้ำหนักและจะติดตามในระยะถัดไปคือ อัตราเงินเฟ้อ ที่คาดว่า จะขยับขึ้นสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2% ตลาดยังคงเชื่อมั่นว่า เฟด จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ในเดือน ธ.ค. ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 76.7%
วานนี้ TISCO รายงานกำไรสุทธิ 3Q60 เท่ากับ 1.57 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับคาดการณ์ของตลาดสำหรับสัปดาห์หน้า จับตาการรายงานของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ SCB (19 ต.ค.), KBANK (20 ต.ค.), BBL (20 ต.ค.), KTB (19 หรือ 20 ต.ค.)
เชิงกลยุทธ์ เรามองว่า มีหุ้น 2 กลุ่มที่มีความน่าสนใจในช่วงนี้ ได้แก่ (1) กลุ่ม Domestic Plays เช่น ROBINS/ TMB/ MBK/ PSH/ LPN และ (2) กลุ่ม Big Cap เช่น PTT/ ADVANC/ KBANK/ AOT/ LH/ CPALL/ BJC น่าจะดึงดูดกระแสเงินทุนต่างชาติได้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- รายงานการประชุม Fed เดือน ก.ย. ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในเดือน ธ.ค. และเริ่มลดขนาดงบดุล $4.5 ล้านล้านในเดือน ต.ค.
- โฆษกรัฐบาลแคว้น Catalan กล่าวว่าจะเดินหน้าการเป็นเอกรายแยกตัวจากสเปนทันที หากรัฐบาลสเปนประกาศใช้มาตรา 155 ปลดรัฐมนตรี Catalan
- OPEC ปรับประมาณการความต้องการน้ำมันดิบในปี 61 เพิ่มขึ้นอีก 2.3 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 33.06 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ ก.ค.
- ติดตามการรายงานการ นำเข้า-ส่งออก จีน และ เงินเฟ้อ สหรัฐฯ วันที่ 13 ต.ค.
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
- ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ จีน วันที่ 16 ต.ค.
- ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ ยุโรป และอังกฤษ วันที่ 17 ต.ค.
- ติดตามการรายงาน Beige Book วันที่ 18 ต.ค.
- ติดตามการรายงาน GDP จีน วันที่ 19 ต.ค.
ข่าวเด่น