ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน มีแรงเก็งกำไรเด่นในหุ้นกลุ่มการเงิน (16/10/60)


 Market summary

  เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว โดยมีแรงเก็งกำไรเด่นในหุ้นกลุ่มการเงิน นำโดย SAWAD, MTLS, GCAP, BFIT  ในขณะที่ราคา TISCO ปรับขึ้น All time high ภายหลังรายงานงบไตรมาส 3  ออกมาดีกว่าคาดพร้อม NPL ที่ลดลง    ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,712 จุด (-1.6 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท (มี Biglot PLANB มูลค่า  532 ล้าน บาท) ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากวันก่อนหน้าที่ 7.8 หมื่นล้านบาท 
  นักลงทุนชาติซื้อหุ้นไทยต่อเป็นวันที่ 5 ที่  481 ลบ. และกลับมา Long สุทธิ SET50  Index Future สูงกว่า  10,594 สัญญา

Investment theme
  สัปดาห์นี้ติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคาร คาดเป็นตัวกำหนดทิศทาง SET   :  สำหรับปัจจัยในประเทศที่สำคัญในสัปดาห์นี้ คือการประกาศงบการเงินของ 8 ธนาคารใหญ่ นำโดย BBL, SCB, KBANK, KTB และอื่นๆ ซึ่งเรามองว่าหากผลประกอบการออกมาดีกว่าตลาดคาดเช่น Loan growth(%) เฉลี่ยเติบโตสูงกว่า 3% , NPL ทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ 3.7% จะเป็นแรงส่งให้ SET ปรับตัว Sideway up และมีโอกาสเกิด Sector rotation จากกลุ่มที่ outperform ตลาดมานานอย่างกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นซึ่งเรามองว่า ราคาหุ้นหลายตัวณ.ปัจจุบันได้สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 3 ที่คาดเติบโตดีไปแล้ว และคาดอ่อนตัว QoQ ในไตรมาส 4 
Investment theme: แนะชะลอแรงเก็งกำไรในกลุ่มโรงไฟฟ้าภายหลังปรับตัว Outperformed ตลาดอย่างมาก (BCPG, GPSC) และสำหรับ SETแนะนำ Go with the flow และพิจารณาขายทำกำไรหาก SET ปรับตัวหลุดเส้น 10 วัน (4 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น 130 จุด ซึ่งสามารถเลี้ยงตัวไม่ได้หลุดเส้น 10 วันมาตลอด)

Big issue 
  เมื่อคืนที่ผ่านมา   รมว.ท่องเที่ยวระบุ นับตั้งแต่ต้นปีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสูงกว่า 26.9 ล้านคน (+5.6%) / ผลกระทบน้ำท่วมในประเทศเริ่มกระจายเป็นวงกว้าง แนะให้นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด / จีนรายงานตัวเลขส่งออก นำกว่าคาดที่ 8.1% / สหรัฐรายงานตัวเลข Core PPI เดือนก.ย. เติบโต 2.2% / อินเดียรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมดีกว่าคาดที่ 4.3% / Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 57.1 เหรียญ/บาร์เรล / Trump ประกาศไม่รับรองข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน / BDI ปรับขึ้นต่อเนื่องที่ 1,485จุด (+27) 
BBL จับมือกับ AIA ขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต 15 ปี 

Stock pick : BDMS
BDMS : เก็งกำไร แนวต้านบริเวณ 21.80บาท
  คาดผลประกอบการไตรมาส 3 เติบโต YoY, QoQ จากทั้งจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10%YoY และ EBITDA margin (%) ที่สูงขึ้นตามดัชนีความซับซ้อนของโรค (Case mix index) โดยเฉพาะจากโรคไข้หวัดใหญ่ ในขณะที่มองว่าผลประกอบการจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 4 จากปริมาณฝนที่ต่อเนื่องยาวนานกว่าปี 2559
  สำหรับอุตสาหกรรมโรงพยาบาล เรามองว่า BDMS จะได้ประโยชน์จากจำนวนสาขาที่สูงสุดในประเทศประมาณ 45 โรง (ประมาณ 6,000 เตียง)ครอบคลุมทุกภูมิภาค โดยเฉพาะ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และ ภาคกลาง (คิดเป็น 37% ของจำนวนเตียงภายใต้การบริหารของ BDMS)  ซึ่งเป็นแหล่งที่ Case mix index สูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในช่วงของไตรมาสที่ 3 ถือเป็นบวกต่อบริษัทฯ
ราคาหุ้นปัจจุบัน YTD - Laggard BH อยู่สูงกว่า 29% แนะนำเก็งกำไรBDMS คาดผู้บริหารกล่าวถึงรายละเอียด Wellness clinic ครั้งแรก ใน analyst meeting เดือน พ.ย.
  Trading idea – – ทยอยสะสม BEM 9.00 คาดงบไตรมาส 3 ทำ All time high / SQ @7.25 จากประเด็นการประกาศผลโครงการแม่เมาะ 9 ในเดือนนี้  / เก็งกำไร ATP30 (2.02) ได้งานใหม่ 2 ต่อสัญญา 1

Technical View
  ปิด Gap ไม่หลุด 1708 ยังคงโมเมนตัมขาขึ้น :  ดัชนีแกว่ง Sideway Down ลงทดสอบแนวรับของ Gap ที่ 1708 และยังคงสามารถประคองตัวไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ระยะสั้นถึงกลางจึงมองว่า โมเมนตัมขาขึ้นยังคงเป็นต่อ  คาดจะแกว่งตัวขึ้นต่อตามกรอบ Uptrend Channel มองแนวต้านถัดไปที่ 1720 และ 1730 และหากดัชนีอ่อนตัวปิด Gap ที่ 1708 มองว่าเป็นโอกาสสะสมหุ้นที่แนวรับ กลยุทธ์การลงุทน (1) มีหุ้น: Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1720 1730 หากย่อไม่หลุด 1708 อาจสะสมเพิ่ม (2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันเป็นโอกาสสะสม มองแนวรับที่ 1708-1710
  แนวรับ : 1708, 1700  แนวต้าน : 1720, 1730

Eyes on 
  ปัจจัยต่างประเทศ :  Trump อยู่ระหว่างการการพิจารณาหาประธาน FED คนต่อไป / 18  ต.ค. จับตาการเลือกตั้งจีน 19 ต.ค.จีนรายงาน GDP  ไตรมาส 3/ ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน / ปัจจัยในประเทศ : ปัญหาน้ำท่วมอาจฉุดกำลังซื้อคนในประเทศบางส่วนหุ้นเทคนิค:
  SCB (B 150.00, Tp 153.00//144.00, Cut 149.00)
  PTTEP (B 92.00, Tp 96.00, Cut 91.00)


บันทึกโดย : วันที่ : 16 ต.ค. 2560 เวลา : 10:21:04

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:00 pm