เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,708-1,740 

          SET ปรับสูงขึ้นแกร่ง +0.83% ปิด 1,726.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิต่อเนื่อง 1.2 พันล้านบาท 

เรามองอย่างไร: 
          ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับสูงขึ้น +1.1% ปิดที่ US$57.8/bbl จะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน + โรงกลั่น อย่าง PTT PTTEP PTTGC TOP ขณะที่ผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารฯ แม้ไม่น่าจะมี surprise แต่ด้วย valuation "ไม่แพง" คาดว่าจะปรับสูงขึ้นต่อ ประกอบกับมีกระแสเงินทุนไหลเข้าจากองทุน LTF ปลายปี จะเป็นปัจจัยหนุน SET ไปที่ 1,740 จุด.ทั้งนี้การแกว่งตัวระยะสั้นถ้ายังไม่หลุด Trailing stop ที่ 1,708 จุด ถือว่ายังไม่น่ากลัว

ทำอะไรดี:
          "ซื้อ" 
          1.กลุ่มค้าปลีก ยังจะ Outperform ตลาดต่อไป ชอบ BEAUTY  (กำไร 3Q17 ทำ new high) CPALL CPN HMPRO QH  เป็น NAV Plays ตามราคา HMPRO) และ ROBINS มอง Same Store Same growth ฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q17 และคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นต่อใน 4Q17 - 2018 
          2.กลุ่มโรงกลั่น กำไร 3Q17 จะแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นสูง และกำไรสต็อกน้ำมัน และคาดว่ากำไร 4Q17 จะยังออกมาดีต่อ ชอบ ESSO  SPRC 
          3."ซื้อ" MINT  มองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกำไร 3Q17-4Q17 ที่ได้ผลดีจากการ renovate ห้องพักที่ Tivoli ขณะที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยวปลายปี

Tactical Portfolio (1-3 months): (หน้า 2)
          "ถือ" AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC และ WHA ต่อไป (ไม่เปลียนแปลง) 
          
Fundamental:(หน้า 5)
          NYT : "ถือ" พื้นฐาน 6.20 บาท (เดิม 7.30 บาท)...การส่งออกรถยนต์ที่อ่อนแอในช่วง 2H17 จะเป็นปัจจัยกดดันกำไรในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ PE18 16.5x มองว่าสะท้อนกำไรที่คาดว่าจะขยายตัว 13-14% ในปี 2018-19 ไปแล้ว...ชอบ JWD มากกว่า ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 13.20 บาท

Today News:
          GL : ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหาร GL ต่อ DSI ฐานทุจริตทำธุรกรรมอำพราง แต่งงบการเงินเพื่อหวังรายงานสูงเกินจริง 
          การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน และเลือกตังญี่ปุ่นในวันที่ 18 ต.ค. และ 22 ต.ค.นี้ ตามลำดับ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นจำกัด เนื่องจากตลาดคาดว่านายสี จิ้นผิง ยังจังเป็นผู้นำต่อไป และสามารถกุมอำนาจได้อย่างมั่นคง ขณะที่การเลือกตั้งญี่ปุ่นคาดนายซินโซ อาเบะ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งด้วยคะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีจากสถิติในอดีตตลาดหุ้น Nikkei มักจะถูก "sell on fact" หลังการเลือกตั้ง เป็นโอกาสที่ดีในการ "ซื้อ" กองทุน T-JapanEq  ที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น 

Technical Story: Technical SET range: 1,709-1,747
ลุ้นซิกแซกขึ้นต่อ: (รายงาน The Technical Story)
          SET ทะลุด่าน 1,720 จุดขึ้นไป มีด่านที่ 1,728 ถัดไปที่ 1,730-32 จุด ที่ต้องข้ามต่อไปทดสอบ 1,747 และ/หรือ 1,755 จุด ส่วนกรณีแกว่งหากยืน 1,719 จุดไม่อยู่ มีแนวรับถัดไป 1,714 และ/หรือ 1,709 จุด 

หุ้นแนะนำ: 
          CPN   เข้าซื้อ เป้าหมาย 83.5 / 85 บาท 
          EA    ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 45 / 47 บาท 
          KBANK รอรับคืนที่ 214 เป้าหมาย 223 / 227 บาท 

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
          "ถือ" Long S50Z17 เป้าหมาย 1,115 จุด...Trailing Stop 1,085 จุด 
          "Long" BlockTrade BCH เป้าหมาย 17 / 18 บาท...Leverage 12x 
          TradeCode: Buy >EA, BCH, PLANB 

Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
          Tactical Portfolio : Tactical Portfolio ให้ผลตอบแทน +5.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ SET ให้ผลตอบแทน +1.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดย ESSO และ SAWAD ให้ผลตอบแทน +13.2% และ +12.2% ดีที่สุดในพอร์ต ขณะที่ STEC ยัง laggard ตลาดต่อไป...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC WHA มองเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1740 จุด 
          "ซื้อ" ESSO.แม้ราคาขึนเร็ว แต่ valuation ยัง "ไม่แพง": แนะนำ "ซื้อ" ESSO ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 17.0 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ค่าการกลั่นสูงใน 3Q17 หนุนผลการดำเนินงานออกมาดี และคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมหมดใน 3Q17 เปิดทางจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2017 2) ค่าการกลั่นที่ทางตัวในระดับสูงต่อเนื่อง US$7-8/bbl ใน 4Q17 จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรออกมาดีต่อเนื่อง และคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้น มากกว่าปริมาณกาน้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้นจะหนุนให้ค่าการกลั่นสูงต่อเนื่องในปีหน้า 3) แม้ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นแรง แต่ valuation ยัง "ไม่แพง" ด้วย PE18 ที่ 8.0x เทียบกับ TOP SPRC IRPC PTTGC ที่ ระดับ 9.2-11x ขณะที่ 4) ทางเทคนิคทำรูปแบบ Cup with Handle เป้าหมาย 18 บาท

Siam Senses Portfolio  (6-12 เดือน)

หุ้นใน Siam Senses Portfolio

• AMATA  : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
• AOT    : ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า
• BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
• CPALL  : ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่แข็งแกร่ง เติบโตสูงจากการขยายสาขาและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากสินค้าใหม่ที่มี margin สูง
• CPN    : เข้าสู่รอบเติบโตสูงด้วย 23% EPS CAGR ช่วง 2017-20F จากการเปิดศูนย์การค้า 3-4 แห่งต่อปี และ operating leverage จากการปรับค่าเช่า
• DTAC   : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
• EA     : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
• KBANK  : ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเศรษฐกิจฟื้นตัว
• KCE    : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
• PTT    : ธุรกิจก๊าซหนุนกำไรโตแข็งแกร่ง