กลยุทธ์วันนี้ >> เน้น Laggard Play และซื้ออ่อนตัวหุ้น Big Cap
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวบวกได้ค่อนข้างแข็งแกร่งโดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อตัวเลขเงินเฟ้อจีนที่ออกมาตามคาด รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 6 อีกกว่า 1,200 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways พักฐานในระยะสั้นหลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ โดยตลาดต้องจับตาผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศอีกครั้งวันนี้และจะหนาแน่นขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งภาพรวมเรามองว่าไม่น่าจะมีเซอร์ไพรส์ในทางลบ ส่วนกลุ่มพลังงานคาดว่ายังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ขยับปรับขึ้นต่อ เรายังมองว่าดัชนีจะสามารถปรับตัวขึ้นทำ High ใหม่ได้ต่อเนื่องในระยะถัดไปโดยมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Laggard และซื้ออ่อนตัวหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่
หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : ADVANC, ATP30, BANPU, IRPC, KKP
Fund flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$198ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$188ล้าน และไทย US$37ล้าน ขณะที่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$37ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคเก็งกำไรผลประกอบการ แต่อาจชะลอลงหลังถ้อยแถลงของประธานเฟดในวันสุดสัปดาห์ทำให้ตลาดส่วนใหญ่คาดความเป็นไปได้มากขึ้นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้
ชวนเม้าส์หุ้นเด่น >> ERW <<
- คาดกำไรปกติ 3Q17 +37% Q-Q, +41% Y-Y อยู่ที่ 79 ลบ. จากการขยาย Budget Hotel และภาวะขาขึ้นของท่องเที่ยวที่ทำให้ Occupancy rate ยังสูงกว่า 80%
- แนวโน้ม 4Q17 คาดโตต่อเนื่องและจะไปทำจุดสูงสุดใหม่ใน 1Q18 เพราะเป็น High Season ซึ่ง ERW ได้ประโยชน์มากสุดจากการมีธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียว อีกทั้งการลงทุนโรงแรมใหม่ยังเร่งตัวตามแผน เราคาดกำไรปกติปี 2017-2018 โตสูงเฉลี่ย 26% ต่อปี
- ข้อมูลสถิติ 1 ปีย้อนหลังบ่งชี้ว่าการปรับลงแล้วฟื้นกลับเร็วของราคาหุ้นคล้ายเมื่อวาน มักมีการฟื้นตัวขึ้นต่อในวันถัดไปเฉลี่ย 2% ด้วยความน่าจะเป็น 70% เราจึงมองเป็นโอกาสซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 7.20 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) BBL จับมือกับ AIA 15 ปี เพื่อขายประกันชีวิต เรามองบวกเพราะจะช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม Bancassurance ของ BBL ซึ่งเมื่อรวม Mutual fund คิดเป็นเพียง 15% ของรายได้รวม ต่ำกว่า KBANK และ SCB ที่ 27% และ 30% ตามลำดับ ซึ่ง AIA มีผลิตภัณฑ์ที่เชิงรุกกว่า BLA โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ระยะสั้น จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของเรา รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น 1% จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 0.6% ถ้าสัดส่วนขึ้นมาเท่ากับ KBANK และ SCB จะเป็นบวกกับกำไรสุทธิ 9-10% คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 230 บาท
(+) IRPC คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 3.4 พันลบ. +174% Q-Q, +158% Y-Y จากการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น margin ทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีขยายตัวรวมถึงกำไรจากสต๊อกน้ำมัน หากเป็นไปตามคาดกำไร 9M17 จะคิดเป็น 77% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 9.0 พันลบ. เรายังเลือก IRPC เป็น top pick เพราะการเติบโตในปีหน้าไม่ต้องพึ่งพา margin ของอุตสาหกรรม และเป็นปีที่รับรู้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่มีการหยุดซ่อม แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 7.40 บาท
(+) ATP30 คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 8 ลบ. +49% Q-Q, +2% Y-Y จากการเริ่มให้บริการบริษัทในเครือของ SCCC และ Autoliv (ลูกค้ารายใหญ่สุดตั้งแต่ตั้งบริษัท) ใน ก.ย. 17 ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้กำไรทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q17 จากการรับรู้เต็มไตรมาส ขณะที่ ปีหน้าคาด +45% Y-Y จากการเริ่มให้บริการ IRPC และ TOP ใน ก.พ. 18 เราชอบ ATP30 จากอัตราการเติบโตที่สูง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจาก EEC คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 2.00 บาท
(+) SYNEX กลุ่มสินค้าไอทีเริ่มน่าสนใจอีกครั้ง หลังจากราคาบิทคอยน์กลับมาทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 5,711.91 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เรายังชอบ SYNEX มากสุดในกลุ่ม เพราะเป็นผู้ค้าส่งการ์ดจอรายใหญ่สุดในประเทศ ขณะที่สมาร์ทโฟนของซัมซุงที่ออกรุ่นใหม่แล้วแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้ จะหนุนผลประกอบการโดดเด่นต่อเนื่องถึง 4Q17 เราคาดกำไร 3Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 160 ลบ. +47% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีนี้ 18.50 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14-15 ต.ค. - IMF ประชุมประจำปี
17 ต.ค. - ยูโรโซน: ZEW Economic Sentiment (ต.ค.) และ อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
- ไทย: TMB ผลประกอบการ 3Q17
18 ต.ค. - สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่
- ไทย: TCAP ผลประกอบการ 3Q17
- จีน: การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19
19 ต.ค. - จีน: GDP3Q17 และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลางประชุม
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
ข่าวเด่น