หุ้นแนะนำพิเศษ

BCH (ราคาปัจจุบัน 16.50 บาท Bloomberg Consensus 17.27 บาท)

• ผลประกอบการช่วง 2H60 ของ รพ.จะได้รับปัจจัยหนุนผลประกอบการในปีนี้หลายทางจากทั้ง 1) การปรับขึ้นของเงินสนับสนุนจากสำนักงานประกันสังคมในส่วนของค่าเหมาจ่ายรายหัว จากเดิมที่ 1,460 บาท ต่อราย เป็น 1,500 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 60 เป็นต้นไป ซึ่งจะหนุนรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคมของบริษัทที่มีสัดส่วน 35% จากรายได้รวม ด้วยผู้ประกันตนถึง 7.81 แสนราย และ 2) การดำเนินงานของ WMC ที่เข้าสู่จุดคุ้มทุนของ EBITDA และจะนำไปสู่การพลิกเป็นกำไรในอนาคต
• เป็นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีการคาดการณ์ผลประกอบการปี 60 จาก Bloomberg Consensus เติบโตสูงสุดที่ 17.8%YoY ซึ่งช่วง 3Q60 - 4Q60 น่าจะได้รับแรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High season ทั้งการเปลี่ยนผ่านฤดูกาลหนุนจำนวนผู้ป่วย และช่วงท่องเที่ยวหนุนผู้ป่วยต่างชาติ (สัดส่วนรายได้ 50%) และในปี 61 ภายหลังจากการพลิกเป็นกำไรเต็มปีเป็นปีแรกของ WMC คาดหนุนกำไรโตต่ออีก 17.1%YoY เป็น Upside ส่วนเพิ่มจากปัจจุบันในปีหน้า ด้าน Valuation คิดเป็น EV/EBITDA เพียง 20 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 22 เท่า

Market View  :  FUND FLOW สนับสนุน
Stock of the town  : TMILL EA
หุ้นแนะนำพิเศษ   : BCH
หุ้นมีข่าว  : PSL
  ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน เปิดกระโดดและทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง จากแรงหนุนของหุ้น 3 กลุ่มหลัก คือ ENERG, BANK และ HELTH จากผลบวกทั้งราคาน้ำมันฟื้นตัว และการรายงานผลกำไรงวด 3Q60 ของ ธ.พ. (17 – 20 ต.ค. 60) สอดคล้องกับ Fund flow ที่ยังเป็นบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,726.67 จุด (+14.19 จุด) Volume 6.64 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +1233.67 ลบ.  TFEX Net –18,156 สัญญา ตราสารหนี้ -808 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 
  +ดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร และเฟดสาขานิวยอร์กเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้นในเดือนต.ค. โดยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 30.2 จากระดับ 24.2 ในเดือนก.ย.   
  +น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสู่ 51.87$/bbl เนื่องจากมีความกังวลในสถานการณ์ในอิรักหลังกองกำลังทหารของอิรักได้เข้ายึดเมืองเคอร์คุกจากกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด นอกจากนี้แท่นขุดเจาะในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 743 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว
  +FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นสู่ 162.63 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงอย่างมากเป็นครั้งแรกจากเงินทุนไหลเข้า-ศก.ฟื้นหนุน
  + Fund Flow เป็น Net Buy 6 วันราว 7 พันลบ. รวมถึงเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุด 33.05 Bath/USD อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนก.ย. TFEX เป็น Net Short ราว 1.05 แสนสัญญา
  ** ติดตามการประกาศงบกลุ่มธนาคาร 17 ต.ค. TMB  19 ต.ค. BBL  KTB  SCB  20 ต.ค. BAY KBANK KKP
  **สหรัฐเตรียมโหวตร่างงบประมาณประจำปี 2561 ในสัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่การพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้
  **18 ต.ค. จับตาเกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธในวันเปิดการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
  ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง  รวมถึง sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮ  ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง  ขณะที่อาจเกิดแรงขายทำกำไรจากการปรับขึ้นแรงวานนี้ ดังนั้นประเมินว่า SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,730-1,734 จุด
กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - การปฎิรูปภาษีของสหรัฐ IVL EPG
  - กลุ่มโรงกลั่นราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นและคาดกำไร Q3/17 เติบโต TOP SPRC
  - TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือ + 1.9% WoW ล่าสุด 1,485 จุด
  - กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP BCPG  HARN FTE  ASIMAR  ATP30 JWD  ERW CKP COMAN SYNEX XO TPCH

หุ้นมีข่าว  

• PSL (ราคาปิด 11.6 บาท) เผยอนุญาโตฯชี้ขาดเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 60 ไม่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายเหตุผิดสัญญาสั่งต่อเรือ 2 ลำ ตามสัญญาระงับข้อพิพาท เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 58  จำนวน 32 ล้านเหรียญฯ พร้อมดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายทางกฏหมาย ภายในวันที่ 4 ต.ค. 60
• จากประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะไม่กระทบในส่วนของ งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเนื่องจากเป็นหนี้สินที่ PSL ถูกบังคับให้ชำระตามคำชี้ขาด ทั้งนี้ มูลหนี้ดังกล่าวซึ่งคิดเป็นเงินไทยราว 1.09 พันล้านบาท คิดเป็นเพียง 5 - 6% ของปริมาณหนี้สินทั้งหมด กอปรกับ PSL ยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานภายหลังจากปีการปรับปรุงกองเรือและในภาวะที่อุตฯเดินเรือเริ่มฟื้นตัวปีละมากกว่า 1 พันล้านบาท (1H60 มีอยู่ 865.91 ล้านบาท) ตลอดจนแผนการขยายกองเรือของบริษัทหมดไปแล้ว จึงเชื่อว่าบริษัทจะสามารถจัดการกับการจ่ายภาระหนี้สินดังกล่าวได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม คำตัดสินดังกล่าวอาจเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นในช่วงสั้น จึงแนะนำ Switch ไปเก็งกำไร TTA แทนซึ่งเป็น 1 ในผู้ประกอบการเดินเรือเทกองที่ได้รับประโยชน์จาก BDI ฟื้นตัว (ล่าสุด +2.56% จากวันทำการก่อนหน้า ปรับตัวเพิ่มติดต่อกัน 10 วันทำการ รวม 16.4%) ซึ่งราคาหุ้นยัง Laggard โดยปรับตัวขึ้นเพียง 2% เมื่อเทียบกับ BDI ที่มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องดังกล่าว
• HARN (ราคาปิด 3.36 บาท ราคาเหมาะสม 4.00 บาท) โดดรับอานิสงส์เขต EEC จ้องขายของยาว 10 ปีคาดสร้างยอดขายหลักร้อยล้านบาท การันตีผลงานปีนี้มาตามนัด 1.32 พันล้านบาท ส่วนปีหน้าเชื่องบติดเครื่องวิ่งต่อ ฟากผู้บริหารชี้จุด เน้นธุรกิจบริการระบุมาร์จิ้นสูงปั๊มสัดส่วนโตเท่าตัวหรือมากกว่า 10 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)
• การลงก่อสร้างโรงงานอุตฯเพิ่มเติมจาก EEC น่าจะเป็นปัจจัยช่วยขยายตลาดฯให้แก่อุปกรณ์ดับเพลิงได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 60 ฝ่ายวิจัยคาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้เป็นอย่างต่ำ ส่วนกำไรมีโอกาสมากกว่าที่คาด เนื่องจากการเติบโตมาจากทั้งยอดขายที่มาจากการควบรวมสินค้ากลุ่มใหม่ (เครื่องทำความเย็น และระบบพิมพ์ดิจิตอล) และอัตรากำไรที่สูงขี้นมากจากผลประโยชน์ของค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"
• SCC เผยจะบันทึกกำไรสุทธิขายหุ้น NTP ในตลาดหุ้นเวียดนาม 963 ลบ.ใน Q3-Q4/60 โดยเป็นการขายหุ้นให้ทั้งผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ลงทุนรายใหม่
• CHOW ได้รับเงินจากการขายโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่นครบ 622 ลบ.แล้วเมื่อ 16 ต.ค. 60
• PACE เปิดเผยว่ากลุ่มผู้ร่วมทุนทั้ง 3 รายบรรลุข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดได้รับการยืนยันทางอีเมล์ว่ากลุ่มผู้ร่วมทุนยินยอมที่จะยกเลิก CCU ฉบับดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดเตรียมสัญญาและเอกสารทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิก CCU
• GL ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้บริหารต่อ DSI กรณีทุจริต เบียดบังทรัพย์สิน และทำบัญชีไม่ถูกต้อง โดยทำธุรกรรมอำพรางผ่านบริษัทที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศหลายแห่ง เพื่อให้ผลประกอบการของ GL สูงเกินความจริง ด้านตลท.ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP หยุดพักการซื้อขาย จนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องของแนวทางการแก้ปัญหาที่ชัดเจน (ที่มา ข่าวหุ้น) – เช้านี้ตลท.ปลดเครื่องหมาย SP แล้ว
• ตลท.รับ "TFMAMA" เข้าเริ่มซื้อขาย 18 ต.ค. 2560 ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม หลัง TF-PR ควบบริษัทแล้วเสร็จ พร้อมถอด TF-PR ออกจากตลท.โดยกำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุด