ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน ไซด์เวย์ สัญญาณตลาดพักชัดเจนขึ้น (18/10/60)


 ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               

ไซด์เวย์ สัญญาณตลาดพักชัดเจนขึ้น
  KGI คาด SET วันพุธไซด์เวย์ต่อหลังวานนี้เริ่มมีสัญญาณพักตัวที่ชัดเจนมากขึ้น หุ้นตัวหลักเริ่มเผชิญแรงขายทำกำไรและต่างชาติกับกองทุนไทยพลิกมาเป็นฝั่งขายสุทธิ ส่งผลดัชนีฯ ปิดลบในกรอบแคบๆ อ่อนแอกว่าที่เราคาดเล็กน้อย ขณะที่ปัจจัยภายนอกเมื่อคืนนี้เป็นกลาง นักลงทุนกำลังติดตามปัจจัยสำคัญในสหรัฐฯ? ได้แก่การที่วุฒิสภาสหรัฐฯ? จะพิจารณา พรบ. งบประมาณในปลายสัปดาห์นี้น่าจะเป็นพัฒนาการขั้นถัดไปต่อแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ยังทยอยสัมภาษณ์แคนดิเดตประธานเฟดคนใหม่ซึ่งน่าจะมีการเลือกภายในกลางเดือน พ.ย. นี้ อย่างไรก็ดีเราประเมินความเสี่ยงทางลงของหุ้นไทยมีจำกัด เนื่องจากค่าเงินบาทยังค่อนข้างแข็งแกร่งตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2561 ที่สดใส และความคาดหวังต่อการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย. 2561 เราจึงมองว่าต่างชาติจะปรับพอร์ตช่วงสั้นๆ เท่านั้น และแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่แนวโน้มกำไรไตรมาสสามออกมาแข็งแกร่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อดัชนีฯ ได้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   
เก็งกำไร KTC*, THE, AMATA*
  KTC* (อยู่ระหว่างพิจารณาปรับเป้าฯ / เป้า Consensus 121 บาท) 1) รายงานกำไร 3Q60 = 846 ล้านบาท (+7.5 QoQ และ +32% YoY) ดีกว่าคาด 18% ทำให้กำไร 9M60 = 2.4 พันล้านบาท (+27.5% YoY) คิดเป็น 87% ของประมาณการฯเดิม คาด Consensus มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น 2) ประเมิน Valuation ไม่แพงด้วย PE ปี 2561 ที่ยังต่ำเพียง 11.3 เท่า (คาดหลัง Consensus ปรับประมาณการฯขึ้น PE จะต่ำลงไปอีก) 3) ประเมินแนวรับ 127 บาท และ 125 บาท ตามลำดับ แนวต้าน 133 บาท ละ 140 บาท ตามลำดับ (Stop loss 125 บาท) ... อ่านบทวิเคราะห์ Alert วันนี้เพิ่มเติม 
  THE (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ราคาเหล็กจีนทั้ง HRC (แผ่น) และ Rebar (แท่ง) ปรับขึ้นราว 4.9% MTD และ 2.8% MTD (ราคาบวกแรงหลังพ้นวันหยุดยาววันชาติจีน ตามที่เราคาด) เป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ปรับขึ้นมาแล้วราว 13.3% และ 5.2% ใน 3Q60 เป็นผลจากนโยบายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลจีน (ปิดโรงเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน เหมือนกับการปิดโรงงานปิโตรเคมีและโรงฟอกหนัง ที่เป็นประเด็นก่อนหน้านี้) ทำให้อุปทานเหล็กจีนตึงตัว ขณะที่ปริมาณสต๊อกเหล็กในจีนล่าสุดยังอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบปี 2) เราประเมินผลการดำเนินงานของ THE ใน 3Q60 จะ Turnaround เป็นกำไร (คาดมีกำไรจากสต๊อกเหล็กราว 100 – 150 ล้านบาท สมมติฐานสต๊อกเหล็กราว 8 หมื่น – 1 แสนตัน) และมีโอกาสที่ราคาเหล็กจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องใน 4Q60 (ผลจากอุปทานตึงตัว) 3) คาดโครงการภาครัฐฯ + นโยบาย EEC จะทำให้ดีมานด์เหล็กในไทยเริ่มเพิ่มขึ้นในปี 2561 – 62 4) ประเมินแนวรับ 4.84 บาท แนวต้าน 5.0 บาท และถัดไปที่ 5.3 บาท (Stop loss 4.78 บาท)  
  AMATA* (เป้าพื้นฐาน 26.4 บาท) 1) แนะนำ “ซื้อแนวรับ” 21.6 บาท และพิจารณาที่แนวต้าน 22.5 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 23.5 บาท (Stop loss 21 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ Initiate coverage หุ้น AMATA* (วันที่ 11 ต.ค.) โดยประเมินยอดขายที่ดินพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปีก่อน และเข้าสู่ขาขึ้นในปี 2560 – 62 ตามการฟื้นตัวของ FDI และรวมทั้งความคืบหน้าของโครงการ EEC  

หุ้นในกระแส
  หุ้นรับกระแสเลือกตั้ง จากประเด็นการกำหนด ช่วงเวลาการเลือกตั้งประมาณเดือน พ.ย.61 คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ
  i) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์ใหญ่ BBL*, KBANK* / แบงก์เล็ก TCAP*, TISCO*): การประกาศกรอบเวลาที่ชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง คาดเป็นบวกต่อเม็ดเงิน Fund flow ที่จะไหลเข้าไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยัง Laggard ตลาดฯ แนะนำ “สะสม” BBL*, KBANK* และ “เก็งกำไร” TCAP*, TISCO* 
  ii) กลุ่มค้าปลีก (หุ้นหลัก COM7*, BJC* / หุ้นรอง TNP) ประเมินบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ในประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่อง (จากข้อมูลในอดีตยอดขายค้าปลีกจะเด่นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง) แนะนำ “เก็งกำไร” COM7*, BJC* และลุ้นรีบาวด์ TNP
  iii) กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป (GIFT, MOONG, ECF, MC) ประเมินหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคทั่วไป จะได้อานิสงส์ในทิศทางเดียวกับกลุ่มค้าปลีก แนะนำ “เก็งกำไร” GIFT, MOONG, ECF, MC
  iv) กลุ่มเช่าซื้อ (ECL) เราประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศจะเริ่มฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และซื้อสินค้าคงทน (รถยนต์) มากขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” ECL 
  v) TKS (เป้า Consensus 16.2 บาท ... สูงสุด 17.4 บาท) TKS เคยได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง จึงมีโอกาสที่จะได้รับงานในครั้งนี้ รวมทั้งคาดยอดแสตมป์ร้าน 7-11 จะโตเด่นตามยอดขาย แนะนำ “เก็งกำไร” 

หุ้นมีข่าว
  (+) จุดพลุ! ไฟฟ้าไฮบริด รับซื้อ 300 เมกะวัตต์ SUPER*-TPCH-GUNKUL* พาเหรดร่วมชิงเค้ก (ข่าวหุ้น) จับตา 7 หุ้น “SUPER*-TPCH-GUNKUL*-BGRIM-BCPG*-KSL-EGCO*” ชิงเค้กไฟฟ้าไฮบริด 300 MW หลังกกพ.เปิดรับข้อเสนอขายไฟฟ้าแล้วถึง 20 ต.ค.นี้ ลั่นวันแรกยื่นเสนอขายแน่น 25 โครงการ กำลังผลิตรวม 541 MW สูงกว่าเป้ารับซื้อ 300 MW
  (+) ลงทุน EEC กว่า 1 ล้านล้าน เคาะ AMATA รับอานิสงส์ (ทันหุ้น) เลขาธิการบีโอไอคนใหม่ "ดวงใจ อัศวจินตจิตร์" ประกาศเดินหน้านโยบายลงทุน หลัง EEC ดึงความสนใจยอดคำขอส่งเสริม (พ.ค.57-ก.ย.60) พุ่ง 1.56 พันโครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ชี้ญี่ปุ่นนำทีมปักฐาน โบรกชี้ AMATA* รับประโยชน์หนุนยอดขายที่ดินเพิ่ม
  (+) WHAUP สยายปีกต่างแดนซุ่มลงทุนเมียนมา-เวียดนาม (ทันหุ้น) WHAUP เร่งทำแผนธุรกิจใหม่ 5 ปี (2561-2565) คาดเสนอบอร์ด พ.ย.นี้ เคาะงบลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลุยโครงการ SPP อีก 2 โครงการ ขนาด 130 เมกะวัตต์ต่อโครงการ เดินตามแผนปี 2562 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเต็ม 540 เมกะวัตต์ พร้อมศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่เมียนมา และการจัดทำระบบสายส่งในประเทศเวียดนาม
  (+) BPP* เทกโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นลั่นประกาศดีลใหญ่พ.ย.นี้ (ทันหุ้น) BPP* เตรียมเทกโอเวอร์โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น พ.ย.นี้ แย้มเป็นบริษัทที่มีสัญญาขายไฟฟ้าแล้ว และมากกว่า 1 ดีล พร้อมยื่นข้อเสนอผลิตไฟฟ้า SPP Hybrid ที่ภาครัฐเปิดรับซื้อ 16-20 ต.ค.นี้ ด้าน กกพ.เผยเอกชนแห่ขอ PPA แค่วันแรก พุ่ง 25 โครงการทะลุเป้า 300 เมกะวัตต์แล้ว
  (0) BLA* ลั่นฐานะการเงินแกร่ง (กรุงเทพธุรกิจ) ไร้ผลกระทบ แบงก์กรุงเทพ ช่วย "เอไอเอ" ขายประกัน กรุงเทพประกันชีวิต ยืนยันไร้ผลกระทบ กรณี "แบงก์กรุงเทพ" จับมือ "เอไอเอ" ช่วยขายประกัน ย้ำยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่ม "บีแอลเอ" อยู่ พร้อมระบุไม่กระทบต่อความมั่นคงทางการเงิน สะท้อนผ่านสินทรัพย์ที่สูงถึง 2.94 แสนล้าน ขณะเงินกองทุนกว่า 253%
  (+) เร่งผลิตรับอสังหาฟื้น ตราเพชรเดินเครื่อง 100% ฟลอยด์ขยายตลาดรับเหมาเพิ่ม (โพสต์ทูเดย์) กลุ่มวัสดุ-รับเหมาก่อสร้างเร่งเครื่องผลิตรับตลาด อสังหาฯ ฟื้นตัว นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวได้ดีกว่าช่วงไตรมาส 2 และ 3 เนื่องจากกลุ่มลูกค้าจะใช้เวลาในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ย. ปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และผู้ประกอบการกลุ่ม ร้านค้า ร้านอาหาร จะสั่งซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างไปปรับปรุงและตกแต่งร้านใหม่ เพื่อรองรับกำลังซื้อที่คาดว่าจะฟื้นตัว ได้ดีในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี

หุ้นแนะนำก่อนหน้า
  COM7* (เป้า Consensus 13.8 บาท … สูงสุด 15.5 บาท) ประเมินการแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend channel 13.7 – 15.4 บาท และกรณ๊ที่ผ่านแนวต้าน 15.4 บาทได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 17 บาท ... ล่าสุด หัวเว่ย และ OPPO เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่รุ่น F5 คาดเป็นบวกต่อ COM7* ที่เพิ่งเปิดร้านทั้ง หัวเว่ย และ Oppo 
  ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท ... เป้า Consensus 4.6 บาท) วานนี้หลุดแนวรับ 4.0 บาท พร้อมแรง Panic sell ประเมินแนวรับสำคัญ 3.8 บาท หากยืนได้แนะนำ “สะสมแนวรับ” (Stop loss 3.8 บาท) ... คาดกำไร 3Q60 ทำนิวไฮ ผลจากการสะสมยอดสินเชื่อใหม่ที่โตเด่น  
BBL* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) แนะนำพิจารณาแนวราคา 193 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไป 200 บาท แต่หากไม่ผ่าน 193 บาท แนะนำ “สะสมแนวรับ” 190 บาท 
  SUSCO (เป้า Consensus 5.3 บาท) รูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 3.7 – 4.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ
  WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) พิจารณาแนวราคา 3.86 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “Let profit run” แต่หากต่ำกว่า แนะนำ “ขายทำกำไร” 
  BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop หากต่ำกว่า 43 บาท
  GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing Stop 17 บาท

สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  KCE* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 93 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q60 = 733 ล้านบาท (-3% YoY, +19% QoQ) คาดอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาสนี้ดีขึ้นแม้ราคาทองแดงที่เป็นวัตถุดิบหลักยังสูง แต่คาด Processing fee ลดลง ช่วยหนุนอัตรากำไรได้ อย่างไรก็ดีราคาทองแดงที่ยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง เป็น Downside risk ต่อประมาณการฯในอนาคตได้
  SVI แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 4.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q60 = 151 ล้านบาท (-19.2% YoY, +18.5% QoQ) โดยประเมินการเติบโตของยอดขายในรูปดอลลาร์ใน 3Q60 จะถูกหักล้างไปบางส่วนด้วยค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นก็จะถูกกดดันจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ (คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะดีขึ้นใน 1Q61)
  ROBINS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 67 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 3Q60 = 588 ล้านบาท (+15% YoY แต่ลดลง -2% QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มาจากการเปิดสองห้างใหม่ GPM ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นอาจจะ overshoot ได้ในระยะสั้นจากปัจจัยบวกหลายประการ จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แม้ Upside จะจำกัด
  PTTGC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 85 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 3Q60 = 9.6 พันล้านบาท (+55% YoY, 46% QoQ) จากกำไรสต๊อกน้ำมันและค่าการกลั่นที่สูง และฝ่ายวิจัยฯทำการปรับประมาณการฯปี 2561 – 62 ขึ้น 22% และ 8%  ตามลำดับ อย่างไรก็ดียังคงคำแนะนำเพียง “ถือ” เพราะ Upside ที่จำกัด และความกังวลต่ออุปทานปิโตรเคมีสาย Olefins ที่จะเพิ่มขึ้นมากในช่วงปี 2560 - 2563

Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---     ค่าเฉลี่ยสี่วันที่รับ 1721 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1721 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1721-1734 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดเหนือนัยรับ 1721 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1721-1707 จุด
  แนวรับวันนี้:          1721/1710             แนวต้านวันนี้:                 1727/1732


บันทึกโดย : วันที่ : 18 ต.ค. 2560 เวลา : 10:19:36

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:34 am