คำแนะนำ
หากราคายืนเหนือ 1,273-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้เปิดสถานะซื้อ(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นแต่ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,289-1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจพิจารณาเปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,273 1,260 1,249
แนวต้าน 1,296 1,307 1,320
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดคนต่อไปจะมีแนวคิดสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินซึ่งเป็นประเด็นที่กระตุ้นแรงซื้อในสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการพุ่งขึ้นปิดเหนือระดับ 23,000 เป็นครั้งแรกของดัชนีดาวโจนส์ขานรับผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐที่ดีเกิดคาด ส่วน S&P 500 และ Nasdaq ก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน อย่างไรก็ดีราคาทองคำลดช่วงติดลบลงหลังดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าจากการเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนก.ย.ที่ปรับตัวลดลงเกิดคาด สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟดฟิลาเดลเฟียและติดตามกระแสข่าวเกี่ยวกับตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไปหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประชุมกับนางเจเน็ต เยลเลนในวันนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์เพื่อหาตัวประธานเฟดคนใหม่
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out กรอบราคาด้านบนหรือไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,289-1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเกิดแรงขายตามมาซึ่งอาจส่งผลทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับลงเพื่อทดสอบแนวรับบริเวณ 1,273-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากทะลุแนวต้านแรกไปได้ แนวต้านถัดไปอยู่ในโซน 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
สามารถถือสถานะขายต่อหากราคาย่อตัวลงไม่ผ่านแนวต้าน 1,289-1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากรับความเสี่ยงได้สูงอาจเปิดสถานะขายเพิ่มหากราคาไม่ยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ เพื่อทยอยปิดสถานะทำกำไรหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ 1,273-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับสถานะซื้อควรตัดขาดทุนหากหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น