กลยุทธ์วันนี้
SMID CAP
Smart Pick
1. สะสม MONO : ราคาปิด 4.00 บาท ราคาเหมาะสม 5.20 บาท
a) Yuanta ประเมินว่าหุ้นกลุ่มสื่อ Digital TV จะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้ กสทช.มีมติเห็นชอบแนวทางทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจ Digital TV ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง แม้ว่าจะไม่มากนักแต่สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจ Digital TV ได้รับการเกื้อหนุนจากภาครัฐฯ
b) ค่าธรรมเนียมใหม่จะส่งผลให้ต้นทุนธุรกิจ Digital TV ของ MONO ลดลงจาก 1.71% เหลือ 0.57% หรือราวปีละ 20 ล้านบาท และคิดเป็นกำไรส่วนเพิ่ม 5.6% จากประมาณการกำไรปี 2561 ที่ 359 ล้านบาท +121% YoY
c) คาดกำไรสุทธิ 3Q60 เติบโตเด่น YoY และ QoQ และทำระดับสูงสุดใหม่ จากการปรับขึ้นค่าโฆษณาขึ้น +37% YoY เป็น 28,000 บาท / นาที และเป็น Catalyst บวกต่อราคาหุ้นที่รออยู่
2. สะสม ROBINS : ราคาปิด 69.50 บาท ราคาเหมาะสม 76.20 บาท
a) Yuanta คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play จากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในเดือน พ.ย. และธ.ค. และต่อเนื่องถึงปี 2561 จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
b) คาดกำไรสุทธิ 3Q60 เติบโตราว 22% YoY และจุดเด่นของ ROBINS อยู่ที่การเติบโตของรายได้ค่าเช่า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 13% ของรายได้รวมและมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ปีละ 3 แห่ง
c) คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +11.7% YoY เป็น 3,321 ล้านบาท และ Valuation ยังถูกที่ระดับ PER2561 เพียง 23 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 32 เท่า รวมทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash Company
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลง 16.94 จุด ปิดที่ 1707.53 จุด โดนกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่อาทิ PTT (-1.86%), ADVANC (-2.26%), SCB (-1.66%), CPN (-2.19%) และ AOT (-0.84%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 3 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 9.1 พันสัญญา นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน รวมกว่า 2.1 หมื่นสัญญา เช่นเดียวกับ สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิราว 4.3 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 5.6 หมื่นสัญญา สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิคงเหลือราว 2 หมื่นสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
เราคาดหวังการฟื้นตัวของ SET INDEX ในวันนี้ หลังจากปรับฐานลงมาใกล้แนวรับสำคัญ 1700 จุด แต่ไม่ได้มีปัจจัยลบรุนแรงเข้ามา เป็นเพียงการขายทำกำไรระยะสั้นของสถาบันเท่านั้น ขณะที่ทิศทางตลาดหุ้นยุโรป-สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐฯ วานนี้บวก 0.7% ทะลุ 23,000 จุด และราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสต๊อคน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ลดลงถึง 5.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าตลาดคาด เราประเมินกรอบ SET INDEX วันนี้ที่ระดับ 1700-1720 จุด
การรายงานภาวะเศรษฐกิจโดยเฟด (Beige Book) บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯโดยรวม ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเดือน ก.ย. แม้ว่า จะมีผลกระทบจากพายุเฮอริเคน Harvey และ Irma ต่ออุตสาหกรรมพลังงาน แต่เป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ส่งผลให้ ล่าสุด ตลาดประเมินความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยเฟดในเดือน ธ.ค.ปีนี้ สูงถึง 80.2% แล้ว
กลยุทธ์วันนี้ เราให้น้ำหนักกับกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ (Domestic Plays) คาดหวังการฟื้นตัวของกำลังซื้อภายในประเทศในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี กลุ่มที่จะได้ประโยชน์ ได้แก่ ค้าปลีก, ธนาคาร, อสังหาฯ, สื่อ-สิ่งพิมพ์, ยานยนต์
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ประธานาธิบดีจีน กล่าวจีนพร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
- Trump ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงระหว่าง ส.ว. 2 พรรค ประเด็น Obama Care
- EIA เผยสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 4.8 ล้านบาร์เรล
- ส.อ.ท. เผย เดือน ก.ย. ยอดส่งออกรถยนต์ขยายตัว 7.19% สูงสุดในรอบ 2 ปี และยอดผลิตรถยนต์ขยายตัว 9.94%
- กสทช. เห็นชอบ แนวทางลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
- ติดตามการรายงาน GDP จีน ตลาดคาดขยายตัว 6.8% และติดตามมูลค่าการนำเข้าส่งออกเดือน ก.ย. ของไทย ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 10.8%
- ติดตามการประชุม Brexit วันที่ 19-20 ต.ค.
- ติดตามการเลือกตั้งญี่ปุ่น วันที่ 22 ต.ค.
ข่าวเด่น