“Selective Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ย่อให้ตั้งรับ” แนวต้าน 1695/1700จุด แนวรับ 1665/1658จุด การบันทึกด้อยค่าของ PTTEP กระทบต่อ PTT กดดันกำไรตลาดปีนี้ลดลง -3.18 บาท ลงสู่ 97.8 บาท ทำให้ดัชนีเป้าหมายปี 2017 ลดลงจาก 1733จุด สู่ 1712จุด แต่อย่างไรก็ดี PTTEP บันทึกด้อยค่าไปเกือบหมดแล้ว และเรายังคงดัชนีเป้าหมาย ปี 2018 ที่ 1848จุด ที่ระดับ EPS 112 คิดเป็น EPS Growth กว่า 14.5% ดังนั้นตลาดปรับฐานเป็นจังหวะเข้าซื้อรับปี 2018 ที่สดใส แนะนำ “Selective Play” : SAWAD, MINT, BDMS
Nomura : Key Factors
- (-) TH: การบันทึกด้อยค่าของ PTTEP กระทบโดยตรงต่อ PTT กดดันกำไรตลาด 3.18 บาท
- (-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.44% สู่ $51.29/bbl / BRT -1.58% สู่ $57.23/bbl
- (*) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น-2745ลบ, Long Future+15,061สัญญา,ขายBond -1257ลบ
- (+) US: ร่างงบประมาณปี2018 ผ่านวุฒิสภาแล้ว หนุนความคืบหน้าแผนปรับลดภาษีสำเร็จ
- (+) US: Powell มีโอกาสที่จะเป็นประธานFEDคนต่อไป และมีมุมมอง Dovish ต่อดอกเบี้ย
- (+) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า หนุนค่าเงินเอเชียและบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ
- (+) OIL: OPEC มีแนวโน้มที่จะขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2018
- Nomura Daily Top Picks: SAWAD, MINT, BDMS
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “ย่อให้ตั้งรับ” ในกรอบแนวต้าน 1695/1700จุด แนวรับ 1665/1658จุด ประเด็นที่ PTTEP ประกาศทำการบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์ในโครงการ Mariana Oil Sands กว่า 550ล้านเหรียญสหรัฐฯใน 3Q17 (หลังจากบันทึกไปแล้ว 630 ล้านเหรียญสหรัฐฯใน 4Q14 และ 626ล้านเหรียญสหรัฐฯใน 3Q15) ซึ่งผลประกอบการจะรายงาน 2 พย.นี้ โดยประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบผลประกอบการของ PTTEP และ PTT จะหายไปในปีนี้ -1.8หมื่นล้านบาท และ -1.2หมื่นล้านบาท จากคาดการณ์เดิมตามลำดับ มีผลทำให้ EPS ตลาดลดลง 3.18บาท/หุ้น คาดการณ์ EPS ตลาดปี 2017 ของเราจะลดลงสู่ระดับ 97.8บาท/หุ้น และเราปรับดัชนีเป้าหมายของตลาดหุ้นไทยปี 2017 ลงสู่ระดับ 1712 จุด จากเดิม 1733จุด และประเมินกรอบดัชนีในช่วงที่เหลือของปีนี้ที่ 1600-1750จุด แต่อย่างไรก็ดีจากการที่ PTTEP บันทึกด้อยค่าไปมากแล้ว โดยคงเหลืออยู่เพียง 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกระทบกำไรตลาดแค่ปีเดียว จะหนุนให้กำไรตลาดปี 2018 มี Growth เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำ เนื่องจากคงคาดการณ์ EPS ตลาดปี 2018 ที่ระดับ 112 บาท คิดเป็น EPS Growth กว่า 14.5% และวางดัชนีเป้าหมายที่ 1848จุด ดังนั้นจึงมองว่าจังหวะที่ตลาดปรับฐานจากประเด็นดังกล่าว เป็นจังหวะในการเข้าซื้อรับแนวโน้มปี 2018 ที่สดใส ประกอบกับปัจจัยตลาดประเทศยังคงหนุนสินทรัยพ์เสี่ยงต่อเนื่อง โดยล่าสุด Jerome Powell Candidate ที่ได้รับความนิยมจาก Trump มีโอกาสที่จะเป็นประธาน FED คนต่อไป ซึ่งมุมมองต่อเศรษฐกิจและดอกเบี้ยของ Powell ที่ค่อนข้าง Dovish นั้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่า หนุนค่าเงินเอเชียและค่าเงินบาทแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ ถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วงพยุงตลาดหุ้นไทย ผสานกับภาพราคาน้ำมันดิบระยะกลางยังคงขาขึ้น รับ OPEC มีแนวโน้มที่จะขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2018 หนุนกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : 7 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Selective Play” เป็นหลัก
1. คาดผลกระทบของ Impiarment กดปรับฐานเสร็จในวัน ให้ตั้งรับ PTTEP ที่ 88.75-86บาทม PTT(รับ410-400บาท)
2. Tax Reform : สภาบนสหรัฐฯ มีประชุมเพื่อลงมติร่างงบประมาณปี2018สัปดาห์นี้ เพื่อปูทางสู่นโยบายปรับลดภาษี บวกต่อ IVL(TP46+Upside risk vs Max Cons. 54-59)
3. กสทช.เห็นชอบการลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอล บวกต่อ BEC(TP Nomura 23.5), MONO(TP4.7), GRAMMY(TP15.1)
4. Earning 3Q17F Play :แนะนำกลุ่มที่กำไรคาดจะโต y-y,q-q ได้แก่ RATCH(+85%y-y,931%q-q), MINT(32%,33%), SAWAD(28%,4%), ERW(25%,171%), GLOBAL(21%,26%), TK(9%,33%), SAPPE(9%,177%)
5. คาด MSCI นำ SAWAD เข้าคำนวณใน MSCI ประกาศ 13 พย 2017
6. Tourism & Season Change Play : ท่องเที่ยว Update ก.ย. 2017 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2.55ล้านคน + 5.75%y-y เป็นบวกต่อ MINT, ERW, AOT, BDMS, BH แนะนำเน้น Laggard MINT, BDMS, ERW
7. Small Cap ที่พื้นฐานดี : Hidden Asset Play (NYT, PSTC, BLAND)
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
SAWAD ( Trading, Max Consensus TP75): Support: 63.75/63.0 Resistant: 67.5/68.75
- Theme : Earnings play
- Earnings outlook : แนวโน้มกำไรยังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง คาดปีนี้ +22%และ +18% 2018F จากการปล่อยสินเชื่อยังเร่งตัวดีและเป็นเชิงรุก รวมถึง การร่วมมือกับ BFIT ช่วยสร้างการเติบโต นอกเหนือจาก การเริ่มบุกตลาดตปท. (ลาว,พม่า,เวียดนาม) เป็นปัจจัย Key growth driver ระยะยาว โดยระยะสั้น กำไร 3Q17F Consensus คาด 695 ลบ. (+28% y-y, +10% q-q)
- Valuation : แม้จะมี Valuation ที่ค่อนข้างสูง แต่เป็นผู้นำกลุ่ม บวกกับ โอกาสเติบโตยังเห็นได้ชัด โดยแนวโน้มกำไร 3 ปีนี้ คาดเพิ่มเฉลี่ย 23% p.a มีโอกาสที่จะซื้อขาย ณ Premium จากกลุ่มได้
- Catalyst : คาด 3Q17F Earnings อยู่ในทิศทางที่ดี + มีโอกาสเข้าคำนวณใน MSCI (ประกาศราว 13 พ.ย.,มีผล 1 ธ.ค.) หนุน Fund Flow Buy
MINT (TP18F 50*): Support: 39.0/38.5 Resistant: 41.0/42.0
- Theme : Earnings Play
- Earnings Outlook : คาดกำไรปกติ 2017F จะกลับมาเติบโต 15% จากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนทุกธุรกิจที่กระจายความเสี่ยงที่ดี ทั้งโรงแรม, ร้านอาหารและ AVC โดยระยะสั้น งวด 3Q17F คาดกำไร 1.2 พันลบ. (+21% y-y, +63% q-q) จากธุรกิจโรงแรมดีขึ้น ขณะที่ ธุรกิจอาหารแม้ SSSG ยังตก แต่เห็นสัญญาณดีขึ้นในเดือน ก.ย.แล้ว และคาดกำไร 4Q17F ยังเป็นโมเมนตัมที่ดี เพิ่มทั้ง y-y, q-q
- Valuation : ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER18F ระดับ 29x เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 24.2%
- Catalyst : จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.75% y-y + จะเข้าสู่ช่วง High season ต่อใน 4Q17F
BDMS (TP18F 23.2*): Support: 20.5/20.2 Resistant: 21.5/21.9
- Theme : Season Change Play
- Earnings Outlook : ยังมีความสามารถในการแข่งขันระดับสูง จากชื่อเสียงดึงดูดทั้งลูกค้าระดับบนและแพทย์มือดี รวมถึง ได้ประโยชน์เรื่อง Economy of scale เป้าหมายจำนวนโรงพยาบาล 50 แห่งใน 3 ปี เทียบปัจจุบัน 45 แห่ง พร้อมๆกับ การเริ่มขยายเชิงลึก ไปสู่ศุนย์เฉพาะทาง, กลุ่ม Wellness (ป้องกันก่อนเกิดโรค) รับ Aging society หนุนการเติบโตระยะยาว สำหรับ กำไรระยะสั้น คาดเป็นจุด peak ที่ 2.2 พันลบ. (+1% y-y, +38% q-q) จากฝนมาไว และผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ลดความกังวลของตลาดก่อนหน้านี้
- Valuation : ยังเป็น Laggard ที่น่าสนใจและดูปลอดภัยในภาวะตลาดรวมที่อยู่ในช่วงปรับฐาน โดยมี PER 18F ที่ 40 เท่า ยังใกล้เคียงกลุ่มฯ ต่างจากอดีตที่ซื้อขายมี Premium กว่ากลุ่มฯ
- Catalyst : คาดกำไรพีค 3Q17F + เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนจากฤดุฝนเป็นหนาว เจ็บป่วยง่าย + จำนวนผู้ป่วยตะวันออกกลางเดือนล่าสุดส.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มถึง 46% y-y เร่งตัวขึ้นจากก.ค. ที่เพิ่ม 5% y-y ช่วยลดความกังวลของตลาดลง ซึ่ง BDMS มีสัดส่วนผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง 3.8%
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
ข่าวเด่น