Market summary
เมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยภาคเช้ามีแรงขายนำโดยกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP ภายหลังบริษัทฯประกาศแผนชะลอการลงทุนโครงการ ออยล์ แซนด์ พร้อมรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าจำนวน 550 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามในภาคบ่าย SET เกิด Technical rebound ทีบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 34 วัน นำโดย AOT, CPALL, ADVANC ส่งผลให้ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,692.43 จุด (+9.1 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.8 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 7.9หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีก 3,275 ลบ. แต่ยังคง Long สุทธิ SET50 Index Future ประมาณ 922 สัญญา
Investment theme
ผลประกอบการกลุ่มธนาคารน่าผิดหวัง เริ่มเห็นต่างชาติขายทำกำไร ลุ้น LTF พยุง SET : ภายหลังการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 กลุ่มธนาคารออกมาน่าผิดหวัง โดยรายงานกำไร 9ธนาคารรวมที่ 4.87 หมื่นล้านบาท ลดลง 9%YoY สาเหตุจากการตั้งสำรองสูง , NPL สูงขึ้นที่ 3.81% (คาด 3.75% ในขณะที่ไตรมาส 2 อยู่ในระดับ 3.70%) อีกทั้ง Loan growth เติบโตต่ำกว่าคาดที่ 2.9% ประกอบกับแผนความคืบหน้าการปฏิรูปภาษีสหรัฐเริ่มมีความคืบหน้าภายหลังสภาสูงสหรัฐผ่านร่างแผนงบประมาณ ส่งผลให้ค่าเงิน Dollar กลับมาแข็ง และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10ปีของสหรัฐสูงขึ้นกว่า 10 bps เมื่อเทียบกับไทย ส่งผลกดดันการลงทุนทางอ้อม ทำให้เรามองว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติอาจไหลเข้าไทยอย่างจำกัด ฉะนั้นกลุ่มหลักที่จะเป็นตัวขับเคลื่อน SET ในช่วงนี้อาจเป็นเม็ดเงินจาก LTF ของกลุ่มสถาบันเป็นหลัก
Investment theme: สัปดาห์นี้คาดมูลค่าการซื้อขายชะลอตัวจากช่วงวันหยุดยาว โดยเรามอง SET แกว่งตัวบริเวณ 1,680-1,700 จุด เพื่อรอดูผลประกอบการกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีก เพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทาง SET ต่อไป
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา Dollar index ปรับตัวขึ้นที่ 93.8 ภายหลังสภาสูงสหรัฐผ่านร่างแผนงบประมาณ เปิดทางแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษี / ส่งออกไทย 9เดือนแรก เติบโต 9.3%YoY / โพลล์ล่าสุดระบุ Powell มีโอกาสขึ้นเป็นประธาน FED คนถัดไป / รัสเซียระบุไม่เข้าร่วมการเจรจาแก้ไขข้อตกลงนิวเครียร์อิหร่าน (JCPOA) / นายกสเปน ประกาศเตรียมออกมาตราการควบคุมอำนาจรัฐสภากาตาลุญญา / Abe ชนะการเลือกตั้งขึ้นเป็นนายาญี่ปุ่นสมัยที่ 3 พร้อมเดินหน้าแก้ไขกฎหมายจากภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ /
Stock pick : BJC
BJC: ซื้อ 59 บาท
คาดกำไร 2H60 จะดีขึ้นกว่า 1H60 จากการที่ BIGC มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น และมีการขยายสาขามากขึ้นตามแผน
ปีนี้คาดแผนการเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ต 9 สาขา , มินิบิ๊กซี 200 สาขา และบิ๊กซีมาร์เก็ต 1 สาขา โดยจะใช้พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้จากการให้เช่าพื้นที่
แนวโน้มการบริโภคฟื้นตัวที่เริ่มฟื้นตัว สอดคล้องกับภาคท่องเที่ยวไทยที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วง High Season ปลายปี หนุนผลประกอบการขยายตัวขึ้น
Trading idea – – GFPT เชิงเทคนิคลุ้น Technical rebound ภายหลังปรับตัวทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน / เก็งการบริโภคฟื้นตัว แนะ BJC, ROBINS, CPALL, KTC / ค่าระวางเรือขาขึ้น เก็ง PSL / SAWAD คาดจะเข้า MSCI รอบใหม่ ประกาศ 13 พย.นี้
Technical View
แนวรับสำคัญ ยังทำงานได้ดี: ในช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1675 จากนั้นได้เกิดแรง Rebound ทันที แม้ยังคงไม่แรงพอที่จะดันดัชนีกลับไปยืน 1700 แต่เราคาดว่า ระยะสั้นดัชนีจะเริ่มหยุดลงและแกว่งตัวออกข้าง มุมมองรายสัปดาห์คาดแกว่งในกรอบ 1680-1710
ส่วนมุมมองภายในวันคาดแกว่ง Sideway Up ทดสอบแนวต้าน 1700 แล้วจะเริ่มอ่อนตัวลง กลยุทธ์การลงุทน (1) มีหุ้น: ระยะสั้นอาจขายทำกำไรบางส่วนที่ 1700 แล้วรอซื้อกลับที่แนวรับ (2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวันสู่แนวรับ เป็นโอกาสซื้อเพื่อ Trading ระยะสั้น
แนวรับ : 1685, 1680 แนวต้าน : 1700, 1710
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : Trump อยู่ระหว่างการการพิจารณาหาประธาน FED คนต่อไป / 26 ตค. ECB Meeting / ติดตามปัญหาความรุนแรงในประเทศฟิลิปปินส์
ปัจจัยในประเทศ : หลายบริษัทฯปิดทำการ-งดให้บริการเนื่องในการพระราชพิธี
หุ้นเทคนิค:
AOT (B 57.00-57.50, Tp 60.00//61.00, Cut 56.50)
CPALL (B 68.00, Tp 71.00, Cut 67.50)
ข่าวเด่น