คำแนะนำ
เนื่องจากราคาปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้าค่อนข้างมากแต่แรงซื้อยังคงจำกัด จึงเน้นการลงทุนระยะสั้นและไม่ควรถือสถานะข้ามวัน หากราคาไม่หลุด 1,271-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณดังกล่าว (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์)
แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,260 1,249 1,237
แนวต้าน 1,288 1,296 1,307
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากในระหว่างการซื้อขายของวันจันทร์ราคาทองคำปรับตัวลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,271.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเยนอันเนื่องมาจากชัยชนะของพรรครัฐบาลญี่ปุ่นที่นำโดยนายชินโซ อาเบะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในศึกการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้มาตรการผ่อนคลายนโยบายเป็นพิเศษมีความต่อเนื่องและจะยังคงกดดันค่าเงินเยนต่อไป อย่างไรก็ดีราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นและกลับมาปิดบวกในที่สุดจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 ตัวของสหรัฐปรับตัวลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์โดยถูกกดดันแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ภาคการบริการและภาคการผลิตของสหรัฐ รวมถึงจับตากรณีการเลือกประธานเฟดคนใหม่หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในวันจันทร์ว่าเขาจะตัดสินใจในไม่ช้าเกี่ยวกับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์รวมถึงทองคำเคลื่อนไหวผันผวนได้
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ปรับตัวลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินแนวรับด้านล่างไว้ที่บริเวณ 1,271-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนระดับนี้ได้จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,271-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวเด่น