สรุปแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ โบรกฯ คาดผันผวนในกรอบ 1,685-1,700 จุด มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับขึ้น แต่ปัจจัยลบจาก fund flow ที่ผันผวน และตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลง 

  *ภาวะตลาดหุ้นไทย
  SET วันศุกร์ปิดบวก 9.15 จุด หรือ 0.54% อยู่ที่ 1,692.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.87 หมื่นลบ. สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,275.51 ลบ.

  *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ
  - ดาวโจนส์ร่วง 54.67 จุด ตามหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม - เทคโนโลยี และพลังงาน หลังนลท.ผิดหวังผลประกอบการ
  วานนี้ (23 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 23,273.96 จุด ลดลง 54.67 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,564.98 จุด ลดลง 10.23 จุด หรือ -0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,586.83 จุด ลดลง 42.23 จุด หรือ -0.64%
  - ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 23 ต.ค. 60 ปิดที่ระดับ 51.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 6 เซ็นต์ หรือ 0.10%
  *มุมมองโบรกฯ เช้านี้

  บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาด SET จะแกว่งตัว Sideways Up รับผลการเลือกตั้งญี่ปุ่นและการอนุมัติผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2018 ของวุฒิสภาสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนใหม่ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าจะรู้ผลในเร็วๆ นี้ รวมถึงการประชุม ECB ในวันพฤหัสฯ นี้ที่อาจมีการลดขนาดวงเงิน QE ลง ทำให้เราเชื่อว่ากรอบการบวกยังคงจำกัด หุ้นที่มีปัจจัยบวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกำไร Q3/60 ที่จะออกมาแข็งแกร่งน่าจะสามารถ Outperform ตลาดได้ในระยะนี้
  บล.โกลเบล็ก ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น โดยมีปัจจัยลบกดดันจาก fund flow ที่ผันผวน ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลง และความเชื่อมั่นต่อผู้นำสหรัฐต่อกรณีมหาเศรษฐีสหรัฐเปิดตัวแคมเปญเรียกร้องให้ถอน “ทรัมป์” ออกจากตำแหน่ง คาดวันนี้ SET ผันผวนในกรอบ 1,685-1,700 จุด 

  บล.อาร์เอชบี คาดตลาดหุ้นวันนี้น่าจะแกว่งในกรอบแคบๆ แต่วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีสามารถทรงตัวปิดเหนือระดับ 1,687 จุดได้ ทำให้ยังคง momentum ในขาขึ้นต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำให้ซื้อลงทุนได้ในกรณีที่ดัชนีปรับตัวลงมา เนื่องจากคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุน LTF และ RMF ราว 1-2 หมื่นล้านรอลงทุนในช่วงปลายปี แนะนำซื้อ CPALL, MINT, TKN, SAT, AH, NYT, PSL, AP, PSH